เปิดใจคุณลุงวัย 80 ปี ผู้สูงวัยไม่กล้าฉีดวัคซีนโควิด-19 เหตุกังวลผลข้างเคียงหลังรับการฉีด หลังเกิดกระแสข่าว ขณะที่ทางด้านเจ้าหน้าที่ อสม.เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ

วันที่ 13 พ.ค.64 รายงานข่าวแจ้งว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกล่าสุดที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือว่ามีความรุนแรงและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทำให้ทางจังหวัดต้องเร่งดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ โดยเฉพาะจากการที่ในขณะนี้การแพร่ระบาดนั้นเกิดจากภายในชุมชน ขณะเดียวกันล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนสามารถรับวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้แล้ว แต่จากกรณีที่ใีกระแสข่าวของการฉีดวัคซีนแล้วเกิดผลข้างเคียงนั้นก็ได้ทำให้มีประชาชนบางรายเกิดความวิตกกังวลและไม่กล้าเข้ารับการฉีด

 

เช่นเดียวกันกับ นายดวงแก้ว ใจคำตื้อ คุณตาวัย 80 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ บ้านดอนชัย ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ อายุ 80 ปี ที่ขณะนี้ได้เดินทางเข้ามาพบปะพูดคุยกับทีม อสม.ที่คลินิกชุมชนของตำบล หลังนอนไม่หลับเป็นกังวล ไม่กล้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-18 เนื่องจากกลัวไม่ปลอดภัย เพราะตัวเองอายุมากและมีโรคประจำตัว และจากการที่ทราบข่าวว่ามีบางรายที่ฉีดไปแล้วเกิดผลข้างเคียงตามมาภายหลัง จึงทำให้เกิดความกังวลว่าการฉีดวัคซีนดังกล่าวจะมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับตัวเองไปด้วย

จากการสอบถาม นายดวงแก้ว บอกว่า ตนมีอาชีพเป็นสัปเหร่อ มีความเสี่ยงสัมผัสเชื้อโดยไม่รู้ตัว แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่กล้าลงทะเบียนรับวัคซีน เพราะตัวเองมีโรคถุงลมโป่งพองเป็นโรคประจำตัว และที่ผ่านมาได้เห็นข่าวตามสื่อต่าง ๆ ที่บอกว่ามีบางคนฉีดวัคซีนไปได้เพียงสองสามวันก็เสียชีวิต จึงทำให้เกิดความกลัว แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะฉีด วันนี้จึงมาปรึกษากับ อสม. ซึ่งในวันนี้วันนี้ทาง อสม.ได้อธิบายความเสี่ยงและขั้นตอนความปลอดภัยต่าง ๆ แต่ในที่สุดวันนี้ก็ยังไม่ตัดสินใจ

อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มผู้สูงอายุจำนวนหนึ่งที่มีความเข้าใจและพากันมาที่คลินิกชุมชนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยลงทะเบียนจองคิวให้ อย่างเช่นคุณตาบุญทา เขื่อนขันท์ อายุ 82 ปี และ คุณยาย นางจันทร์สม เขื่อนขันท์ อายุ 78 ปี สองสามีภรรยาที่พากันมาจองคิว โดยเชื่อว่าวัคซีนจะช่วยลดความรุนแรงของอาการโรคโควิด-19 หากบังเอิญติดขึ้นมา

ขณะที่ทางด้าน นายวีระชัย ชัยมงคล กำนันตำบลป่าแดด ยอมรับว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากข่าวสารที่ได้รับ โดยในตำบลป่าแดดมีกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วย 7 โรค รวมประมาณ 2,000 กว่าคน คิดเป็นประมมาณร้อยละ 15 ของประชากรในตำบลที่มีอยู่ประมาณ 17,000 คน และ จนถึงขณะนี้ร้อยละ 80 ของกลุ่มเสี่ยงยังไม่ยอมมาลงทะเบียนจองสิทธิ์ โดยปัญหาที่เกิดขึ้นทางตำบลจึงร่วมมือกับ อสม. เร่งรณรงค์ถึงบ้านเพื่อให้คนกลุ่มนี้คลายความกังวลและรับวัคซีนให้มากที่สุด โดยเจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำรวมทั้งช่วยเหลือในการลงทะเบียนผ่านแอพลิเคชั่นหมอพร้อมสำหรับผู้สูงอายุที่ทำไม่เป็น นอกจากนี้ทางตำบลยังอำนายความสะดวกรับส่งผู้สูงอายุเดินทางไปฉีดวัคซีนตามวันที่ได้จองคิวไว้อีกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น