กรมอนามัย เผย โรงงานหลายแห่งไม่มีตรวจคัดกรอง ห่วงพนักงานติดเชื้อโควิด-19 สูงขึ้น

​กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วงสถานประกอบกิจการประเภทโรงงานที่มีพนักงานตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป ติดเชื้อโควิด–19 สูงขึ้น หลังพบโรงงานหลายแห่งไม่มีการคัดกรองพนักงานก่อนเข้าทำงาน มีการกินอาหารและพูดคุยร่วมกัน ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน บางสถานที่มีความแออัด และระบบระบายอากาศไม่ดี
​นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากข้อมูลการติดตามผลการประเมินรับรองตนเองของสถานประกอบกิจการผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID Plus (Good factory Practice ,GFP) ข้อมูลสะสม ณ วันที่ 11 พฤษภาคม 2564 มีจำนวนสถานประกอบกิจการประเภทโรงงาน เข้ามาประเมินรับรองตนเอง จำนวนทั้งหมด 1,386 แห่ง สามารถดำเนินการตามมาตรฐานได้ตามเกณฑ์ฯ จำนวน 1,056 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 76 และไม่ได้ตามเกณฑ์ฯ จำนวน 330 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 24 และยังพบสถานการณ์การระบาดในโรงงานมีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 250 ราย จากสถานประกอบกิจการประเภทโรงงานจำนวน 5 แห่ง ใน 5 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ ปทุมธานี สมุทรสาคร และนนทบุรี ซึ่งส่วนใหญ่จะพบ ในสถานประกอบกิจการที่มีพนักงานมากกว่า 500 คน ขึ้นไป มีความหนาแน่นของคนมากกว่า 1 คนต่อ 4 ตารางเมตร มีแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานที่มาจากพื้นที่สูง หรืออาคารเป็นระบบปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก นอกจากนี้ยังมีสาเหตุหลักมาจากการสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ ไม่มีการคัดกรองพนักงานก่อนเข้าทำงาน การสังสรรค์ กินอาหารหรือการใช้แก้วน้ำร่วมกัน และสถานที่พักอาศัยของคนงานไม่เป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ทำให้มีความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 สูงขึ้น

“ทั้งนี้ ขอความร่วมมือให้สถานประกอบการประเภทโรงงานยกระดับมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรคโควิด-19 ด้วยการคัดกรองผู้ปฏิบัติงานก่อนมาทำงานในระดับเข้มข้น ด้วยการประเมินตนเองผ่านเว็บไซต์ “ไทยเซฟไทย” ที่ช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อโควิด 19 สู่เพื่อนร่วมงานก่อนเข้ามาทำงานทุกวัน ลดความแออัดหรือความหนาแน่นบริเวณที่ปฏิบัติงาน จัดสถานที่ทำงานให้โล่ง มีการระบายอากาศที่ดี และเปิดประตูหน้าต่างทุก ๆ 1 ชั่วโมง ในส่วนของที่พักคนงาน ให้หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม ควบคุมความสะอาดของที่พักให้ได้มาตรฐาน หากมีรถรับ-ส่งพนักงาน ต้องจำกัดจำนวนไม่ให้แออัด ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากทุกคนและทุกครั้งที่ใช้บริการ หมั่นทำความสะอาดและฆ่าเชื้อภายในรถเป็นประจำ สำหรับโรงอาหารให้มีการกำหนดเส้นทางการเดิน รวมถึงจุดนั่ง ยืน เดิน หรือรอพักให้ชัดเจน แยกสำรับอาหารหรือจัดเป็นชุดเดียว รวมทั้งใช้ แก้วน้ำ จาน ชาม ช้อนส้อมของส่วนบุคคลเพื่อลดการใช้อุปกรณ์ร่วมกัน รวมทั้งผู้ปฏิบัติงานก่อนเดินทางมาทำงานต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์ และรักษาระยะห่างระหว่างกันไม่น้อยกว่า 1-2 เมตร อยู่เสมอ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น