บ้านจัดสรรปรับไลน์กลุ่มหมู่บ้านเป็นตลาดออนไลน์ ปรับตัวสู้วิกฤตโควิด-19 งัดสารพัดสินค้ามาขาย ทั้งอาหาร ผลไม้ และบริการล้างแอร์ ติดตั้งผ้าม่าน เช่าพระเครื่อง เจ้าของร้านข้าวมันไก่ เผย ผลตอบรับดีเกินคาด เพราะหลายคนต้องทำงานที่บ้าน และไม่มีค่าส่งแม้สั่งแค่กล่องเดียว
หลัง ศบค.ยกระดับให้จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยหนึ่งในมาตรการ คือ ห้ามนั่งทานอาหาร และเครื่องดื่มในร้าน ให้ซื้อกลับไปทานที่อื่นเท่านั้น ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร ต่างได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวกันถ้วนหน้า เช่นเดียวกับร้านข้าวมันไก่ ที่ตั้งอยู่บนถนนแม่ริม-เชียงใหม่ ขาเข้าเมือง อำเภอแม่ริม ที่ต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด โดยหันมาเปิดรับออเดอร์ภายในไลน์กลุ่มของหมู่บ้านจัดสรรที่ตนเองอาศัยอยู่ ทุกๆ วัน นายอดุลย์ เมืองมา อายุ 47 ปี เจ้าของร้านจะส่งภาพเมนูข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู ราดหน้าหมี่กรอบ และข้าวซอยเนื้อ เข้าไปในไลน์กลุ่มเพื่อให้เพื่อนบ้านที่สนใจสั่งซื้อ จากนั้นช่วงใกล้เที่ยงก็จะนำอาหารที่ลูกค้าสั่ง ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนส่งตามบ้านของลูกค้าแต่ละหลัง
นางลำจวน เมืองมา อายุ 48 ปี ภรรยาของนายอดุลย์ และเป็นเจ้าของร้านข้าวมันไก่ เล่าว่า เปิดร้านมานานกว่า 15 ปี มีลูกค้าทั้งขาประจำ และขาจร แต่หลังโควิด-19 แพร่ระบาด และ ศบค.ออกมาตรการห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้าน ทำให้ลูกค้าหดหายจนยอดขายลดลง แต่เธอยังต้องแบกรับรายจ่าย ทั้งค่าเช่าร้าน และเงินเดือนของลูกน้อง จึงต้องปรับตัว และมองหาช่องทางการตลาดอื่น เพื่อประคองธุรกิจให้อยู่รอด
กระทั่งในไลน์กลุ่มหมู่บ้านเริ่มมีลูกบ้านหลายคนโพสต์ขายของ เธอจึงทดลองนำอาหารที่ร้านมาโพสต์ขายบ้าง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี เพราะหลายคนต้องเวิร์คฟอร์มโฮม และอยู๋ในช่วงปิดเทอม จึงมีเด็กๆ หยุดอยู่บ้านกัน
นางลำจวน บอกว่า ช่วงแรกๆ ก็เกรงใจเพื่อนบ้านเหมือนกัน เพราะไลน์กลุ่มที่ตั้งขึ้นมีไว้แจ้งข่าวสาร หรือปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน แต่เมื่อทดลองโพสต์ไปกลับได้รับความสนใจ และมีออเดอร์เข้ามาต่อ เนื่องเพราะไม่มีค่าส่ง แม้จะสั่งเพียงกล่องเดียวก็ตาม ถือเป็นการเปิดตลาดขยายฐานลูกค้าที่หลายคนอาจยังไม่รู้จักร้านของเธอ รวมทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านในหมู่บ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้แทบไม่เคยพูดคุยหรือเห็นหน้ากัน
หลังจากนั้นในไลน์กลุ่มหมู่บ้านก็เริ่มมีเพื่อนบ้านคนอื่นๆ เปิดครัวเฉพาะกิจนำอาหารที่ทำมาโพสต์ขาย เพื่อหารายได้เพิ่ม บางรายก็นำผลไม้เช่นทุเรียน ลิ้นจี่ เชอรี่ มะม่วง เบเกอรี่ รวมไปถึงของใช้อย่างนมผง ยา มาโพสต์ขาย
นอกจากเมนูอาหาร ผลไม้ และสิ่งค้าจิปาถะต่างๆ ที่คนในหมู่บ้านนำมาโพสต์ขาย ก็ยังมีโพสต์เปิดรับบริการล้างแอร์ ติดตั้งผ้าม่าน และเช่าพระเครื่องด้วย ทำให้รู้ว่าไม่เฉพาะแต่ร้านอาหารของครอบครัวเธอเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่ผู้คนแทบทุกอาชีพที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตในครั้งนี้ และทุกคนก็เริ่มปรับตัวหันมาใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อหารายได้ โดยเริ่มจากช่องทางใกล้ตัว คือ ไลน์กลุ่มของหมู่บ้าน ถือเป็นการพึ่งพาอาศัยและช่วยเหลือกันของผู้คนในชุมชน
ร่วมแสดงความคิดเห็น