ค้ากาดนัดครวญ คำสั่งคุมโควิด ดันหนี้ครัวเรือนพุ่ง

กลุ่มผู้ค้ากาดนัด จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงใหม่ มีมติที่ประชุมออกคำสั่ง 54/2564
โดยผ่อนผันให้ร้านอาหาร สามารถนั่งทานอาหารในร้านได้ แต่ยังคงห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านนั้น เป็นมาตรการที่เหมาะสมกับสภาวะที่เป็นไปในสังคม รวมถึง ตลาดโต้รุ่ง สถานที่จำหน่ายสินค้าเวลากลางคืน/ถนนคนเดินซึ่งมีลักษณะเป็นการประจำ ให้เปิดได้ไม่เกิน 5 ทุ่ม


” ประเด็นคำสั่งที่54 /2564 ระบุให้ยกเลิก คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ที่ 51/2564 เรื่อง ปิด
สถานที่เป็นการชั่วคราว ลงวันที่ 7 พ.ค.2564 พร้อมระบุว่า ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ตามมาตรา 51 พรบ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 พรบ.ฉบับเดียวกัน แล้วแต่กรณี ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 17 พ.ค. 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง”

 

นั่นหมายความว่า คำสั่งที่ 52/2564 ซึ่งเป็นคำสั่งปิดสถานที่เสี่ยงชั่วคราว ในข้อ 2 ที่มีการ “ห้ามใช้สถานที่ใดๆ เพื่อ
จำหน่ายสินค้าที่มีลักษณะเป็นครั้วคราว อาทิ เปิดท้ายขายของ,สถานที่มีรถเร่มารวมกันขายของ ตามหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ เป็นครั้งคราว ก็ยังคงมีผลบังคับ และสั่งปิดอยู่ ไม่เปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้มาตรการควบคุม ป้องกันโรคโควิด 19 ที่ ดำเนินการ มุ่งเน้นไปด้านสาธารณสุข ในขณะที่ มิติด้านเศรษฐกิจ สังคม แม้จะมีการเยียวยาออกมา แต่เงินช่วยเหลือรายละ 2 พันบาท เปรียบเทียบกับการใช้ชีวิตปกติของแต่ละครัวเรือน ท่ามกลางสถานการณ์ที่หลายๆครอบครัว แบกรับ มีรายได้หลักจากการตระเวนค้าขายตามกาดนัด เป็นอาชีพหลัก เป็นแหล่งรายได้จุนเจือครอบครัว ต้องหยุดค้าขายมานาน ตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ และเกิดระบาดรอบใหม่ ช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันก็มีแนวโน้มที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะยุติได้ในเร็ววันเมื่อไหร่ อีกทั้งล่าสุดคลัสเตอร์ใหม่ๆในเชียงใหม่ เพิ่มต่อเนื่อง เช่นล่าสุดที่เรือนจำเชียงใหม่

 

ดังนั้น ข้อเรียกร้องที่กลุ่มผู้ค้ากาดนัด จ.เชียงใหม่ นำเสนอคือมาตรการสร้างโอกาสฉีดวัคซีน ตามแผน ในกลุ่มเสี่ยงและประชาชนทั่วๆไป อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการเปิดพื้นที่ สร้างเสริมรายได้จากผู้มีอาชีพค้าขาย ตามสถานที่เหมาะสมต่อไป” แม้คำสั่ง 54/2564 จะ ผ่อนผัน ร้านอาหาร ให้เปิดพื้นที่นั่งทานในร้านได้บางส่วน ก็มีสภาพไม่แตกต่างจาก คำสั่งที่ 51/2564 จะยังคงอยู่หรือ ยกเลิกก็ไม่มีผล เพราะผู้ค้าตามกาดนัด ส่วนใหญ่ ปรับวิถีค้าขาย ไปยังตลาดชุมชน ช่วง เช้า ช่วงเย็น หรือแม้แต่ค้าขายตามรายทาง ถนนสายหลักๆกันมานานแล้ว
ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดรอบนี้ วิกฤติกว่าทุกครั้ง ครัวเรือนแบกรับหนี้สินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากผลของ การประกอบอาชีพที่ กำลังซื้อหดตัว แหล่งค้าถูกปิดชั่วคราว ตามคำสั่ง โดยภาพรวม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะดีขึ้นนั้น ต้องสร้างความเชื่อมั่น ให้ประชาชน มั่นใจใส่ใจเร่งฉีดวัคซีน และ ดำเนินนโนบาย กระตุ้น สร้างเสริมสังคม เศรษฐกิจคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะยิ่งแย่วิกฤติกว่าที่เป็นอยู่

ร่วมแสดงความคิดเห็น