วิ่งธงไทยไป อลป.วันที่ 51 เหลือ 573 กม. พิชิตเป้าหมาย วันนี้จาก บุรีรัมย์ เข้าสระแก้ว

ความเคลื่อนไหวกิจกรรมประวัติศาสตร์ “FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่อง 61 วัน 35 จังหวัด ระยะทาง 4,606 กม. เทียบเท่าระยะทางกรุงเทพฯ ไปยังกรุงโตเกียว และจัดขึ้นเพื่อรวบรวมกำลังใจจากพี่น้องคนไทยส่งต่อถึงนักกีฬาทีมชาติไทย ล่าสุดเมื่อ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา เข้าสู่การวิ่งเข้าสู่วันที่ 51 วิ่งจาก จ.นครราชสีมา ไป จ.บุรีรัมย์ และสุดท้ายที่ จ.สระแก้ว รวมระยะทาง 205 กม. ซึ่งนับว่าไกลที่สุดในกิจกรรมวิ่งธงชาติไทย

โดยการวิ่งในวันนี้ ไม่อนุญาตให้นักวิ่งพี่น้องชาวไทยที่ลงทะเบียนสมัครร่วมกิจกรรมลงวิ่ง ทั้งนี้เพื่อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามแผนของ จ.นครราชสีมา, จ.บุรีรัมย์ และ จ.สระแก้ว โดยได้ปรับมาใช้รถประชาสัมพันธ์แห่ธงชาติไทย เพื่อโปรโมตการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือน ก.ค.นี้ และส่งกำลังใจให้นักกีฬาทีมชาติไทยที่จะเป็นตัวแทนไปแข่งขันแทน

กิจกรรมวิ่งธงชาติไทยในวันที่ 51 เริ่มต้นออกสตาร์ตกันในช่วงสาย ที่องค์การบริหารส่วนตำบลทับสวายจ.นครราชสีมา ก่อนขบวนรถจะแห่ธงชาติไทยมาถึงยัง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมี นายดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นำคณะผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาร่วมต้อนรับธงชาติไทยกันที่ บริษัท โตโยต้า บุรีรัมย์ จำกัด จากนั้นธงชาติไทยถูกนำขึ้นรถแห่ต่อเนื่อง วิ่งผ่าน กม.ที่ 3,888 บริเวณวงเวียนพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 แลนด์มาร์คประจำจังหวัดบุรีรัมย์ และผ่าน กม.ที่ 4,000 ของกิจกรรม ที่ อ.โนนดินแดง ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ก่อนในช่วงเย็นจะเคลื่อนขบวนมาถึงจุดหมาย ที่องค์การบริหารส่วนตำบลโคคลาน จ.สระแก้ว

ทั้งนี้เมื่อจบวันที่ 51 ของกิจกรรม “FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” ธงชาติไทยถูกวิ่งสะสมระยะทางไปแล้วถึง 4,033 กม. ในพื้นที่ 30 จังหวัด โดยอีก 10 วันสุดท้ายของกิจกรรม เหลือระยะทางให้วิ่งอีก 573 กม. ในอีก 5 จังหวัดเท่านั้น ก็จะพิชิตภารกิจ ส่งกำลังใจให้นักกีฬาไทยตามเป้าหมาย 4,606 กม.

นายดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เผยว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ธงชาติไทยถูกวิ่งผ่านในเส้นทาง จ.บุรีรัมย์ น่าเสียดายที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้พี่น้องชาวบุรีรัมย์พลาดร่วมกิจกรรมวิ่งธงชาติไทย อย่างไรก็ตาม ทั้งตน พี่น้องชาวบุรีรัมย์ และคนไทยจะยังติดตามเชียร์และส่งกำลังใจให้กับนักกีฬาไทยในโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ต่อไป

ส่วน นายสมศักดิ์ เต็มบัณฑิต กรรมการบริหารสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้จัดการทีม นักกีฬาคนพิการแห่งชาติ จังหวัดบุรีรัมย์ เผยว่า ตนขอเป็นกำลังใจให้นักกีฬาไทยทุกท่านและนักกีฬาคนพิการทุกคน ขอให้ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ คว้าชัยชนะ เหรียญรางวัล และแสดงศักยภาพความเป็นคนไทยออกมาให้โลกได้เห็น

ด้าน สิทธิ์ ไตรบัญญัติกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โตโยต้า บุรีรัมย์ จำกัด กล่าวในฐานะของ บ.โตโยต้า บุรีรัมย์ ว่า กิจกรรมวิ่งธงชาติไทยครั้งนี้ ถือเป็นสีสันให้กับวงการกีฬากับประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเดียวกันนั่นก็คือร่วมแรงร่วมใจกันเชียร์นักกีฬาในโอลิมปิก ซึ่งก็เชื่อว่ากิจกรรมนี้จะเป็นการช่วยสร้างกระแสให้คนไทยหันมาชมและเชียร์นักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์ที่กำลังจะเริ่มขึ้น และหันออกกำลังกายกันมากขึ้นด้วย

ขณะเดียวกัน ร้อยเอกแก้ว พงษ์ประยูร นักกีฬามวยสากลสมัครเล่น เจ้าของเหรียญเงิน โอลิมปิก 2012 ยังได้ร่วมโฟนอินพูดคุยในช่วงของการไลฟ์สดวันที่ 51 ด้วย โดยเจ้าตัวเล่าย้อนถึงกีฬาโอลิมปิก 2012 ว่า ยังคงประทับและตราตรึงกับบรรยากาศการแข่งขัน และกำลังใจจากคนไทยทุกๆ คนที่ส่งไปเชียร์ตนและนักกีฬาไทยอีกหลายๆ คนได้อยู่จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งกำลังใจทั้งหมด ตนถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตนคว้าเหรียญเงินจากการแข่งขันกลับมาด้วย ตนขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ นักกีฬาตัวแทนทีมชาติไทยทุกคนที่จะเดินทางไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ขอให้มุ่งมั่น ตั้งใจฝึกซ้อม และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ต้องกังวลว่าสุดท้ายแล้วจะแพ้หรือชนะ ขอให้คิดแค่ว่า เราได้ลงไปในสนามทำอย่างเต็มที่ และสู้สุดความสามารถแล้ว

สำหรับกิจกรรมในวันอังคาร ที่ 18 พ.ค.64 วิ่งต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 52 จะเป็นการวิ่งในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยแฟนๆ กีฬาและประชาชนชาวไทย สามารถติดตามชมไลฟ์สด พร้อมให้กำลังใจเหล่านักวิ่ง ทีมงาน และนักกีฬาทีมชาติไทยได้ที่เฟซบุ๊ก Road to Tokyo 2020 ตลอดทั้งวัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น