นศ.ไทยว่าที่แพทย์จาก ม.ดัง ในจีนลวงลงทุนในกลุ่มแลกเงิน สุดท้ายหอบเงิน 30 กว่าล้านบาท

สองสาวผู้เสียหายในเชียงใหม่ หอบหลักฐานร้องสื่อ หลังถูกสาว 26 ปี นศ.ไทยว่าที่แพทย์จาก ม.ดัง ในจีนลวงลงทุนในกลุ่มแลกเงิน สุดท้ายหอบเงิน 30 กว่าล้านบาทจากผู้เสียหายจำนวนหลายร้อนคนทั้วประเทศหนีเข้ากลีบเมฆ ผ่านไป 10 วันยังไร้เงา ผู้เสียหายหลายรายพยายามติดต่อแต่ไม่เป็นผล หวั่นหนีออกประเทศ วันที่ 24 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.น้ำ (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ชาว อ.สันทราย และ น.ส.แมว (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ชาว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากกรณี น.ส.ธารารัตน์ สิงห์ทองวรรณ หรือใช้ชื่อเล่นว่า “จูน” อายุ 26 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เป็นนักศึกษาสาขาแพทย์ศาสตรปีสุดท้าย ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศจีน (ปัจจุบันอยู่ในห้วงฝึกงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศไทย) ได้มีการประกาศในกลุ่มเฟสบุ๊กชื่อว่า “Veerenphat Singtongwan” ที่พูดคุยเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าใน taobao ,1688 และเว็บไซต์ในจีนตั้งแต่ก่อน พ.ย.63 เป็นต้นมาว่าตนเองมีเงินหยวนสามารถโอนเงินไปบัญชีจีน หรือจ่ายค่าสินค้าในจีนได้โดยเสนอเรทแลกเปลี่ยนในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดทำให้มีคนสนใจจำนวนมาก พากันติดต่อสอบถามและใช้บริการ จนภายหลังประมาณช่วงปลายปี 2563  จึงได้มีการตั้งกลุ่มไลน์ชื่อกลุ่ม “แลกเงิน/จองเงิน by JT” เพื่อให้ลูกค้าที่ใช้บริการมารับข้อมูลข่าวสารและแจ้งเรทแลกเงินรายวันภาย โดยจะมีการประกาศแจ้งเรทแลกเปลี่ยนในกลุ่มไลน์ทุกวัน ซึ่งส่วนมากจะเป็นเรทจองคือผู้จองต้องจ่ายเงินบาทในวันที่ทำการจองตามเรทที่จูนแจ้งไว้และจะได้รับเงินหยวนในภายหลังตามวันที่กำหนดซึ่งจะมีระยะเวลาในการจองตั้งแต่7วันจนถึง25วัน ในเรทราคาที่แตกต่างกันไปยิ่งระยะยาวเรทก็จะยิ่งถูกลง (เช่นจองวันที่1ได้เงินหยวนวันที่15) ซึ่งมีผู้อยู่ในกลุ่มมากกว่า 300 รายและใช้บริการมาอย่างต่อเนื่อง
แต่ต่อมาวันที่ 10 พ.ค.64 น.ส.ธารารัตน์ สิงห์ทองวรรณ หรือจูน ไม่ได้โอนเงินให้กับผู้ที่มีนัดรับในวันดังกล่าวและได้มาแจ้งในกลุ่มว่า มีปัญหาไม่สามารถติดต่อคนโอนเงินซึ่งอยู่ที่ประเทศจีนได้และบอกว่าตนเองถูกโกงจึงไม่สามารถจ่ายเงินให้กับทุกคนที่จองเอาไว้ได้ ผู้เสียหายจึงมีการรวมตัวกันตั้งกลุ่มไลน์เพื่อรวบรวมข้อมูลและสรุปจำนวนผู้เสียหายได้มากกว่า 100 ราย รวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 30 ล้านบาท ทำให้ผู้เสียหายกว่า 100 คน ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศก็ได้ทยอยไปแจ้งความตามที่ครบกำหนดวันที่ต้องได้รับเงิน จนตอนนี้พบว่าผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อทั้ง น.ส.ธารารัตน์ สิงห์ทองวรรณ หรือจูน และแอดมินไลน์กลุ่ม ได้อีกเลยรวมถึงไม่ได้รับเงินคืนตามที่แจ้งเอาไว้ และทำให้ผู้เสียหายหลานรายได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากบางรายเสียเงินทั้งหมดที่ตัวเองมี บางรายต้องกู้หนี้ยืมสินมาชดใช้หนี้และประคองธุรกิจของตัวเอง บางรายถูกลูกค้าฟ้องร้องเป็นคดีความอีกทอดหนึ่งเนื่องจากไม่มีเงินไปคืนให้ลูกค้า

ทั้งนี้ทางด้าน น.ส.แมว (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ชาว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เล่าว่า ตนเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้เสียหายที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าไปร่วมอยู่ในกลุ่มชื่อว่า 1688 , taobao ซึ่งเป็นกลุ่มที่ซื้อของจากจีนจะเข้าไปซื้อขายสินค้าและแลกเงิน โดยคนที่ใช้ชื่อเฟสบุ๊กว่า “Veerenphat Singtongwan” หรือชื่อเล่นว่า “น.ส.จูน” จะเป็นคนที่มาโพสต์โฆษณา หรือประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเงินหยวนเรทเท่านั้น เท่านี้ ซึ่งทาง “น.ส.จูน” ได้ทำมาพักใหญ่ จึงมีฐานลูกค้าประมาณหนึ่งและทำให้ตัวเองมีเครดิต มีความน่าเชื่อถือ หลังจากนั้นมาลูกค้าก็เริ่มเพิ่มากขึ้น และตนก็เป็นอีกคนที่เคยแลกเงินกับ “น.ส.จูน” ด้วย ซึ่งในช่วงแรกก็ไม่มีปัญหา ตนก็ได้รับเงินตรงตามวันที่กำหนด แตเมื่อมาถึงช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เรทที่แลกนั้นเริ่มเป็นเรทจองซึ่งเมื่อตกลงจะเอาเงินหยวนในเรทที่หลุดวันนี้ ก็จะต้องโอนเงินให้ก่อนแต่อีก 20 วันถึงจะได้เงินหยวน โดยระยะเวลารับเงินก็จะห่างออกไปแต่ด้วยความที่ตนเชื่อใจและเคยแลกกับ “น.ส.จูน” ตลอดก็จึงโอนเงินไปแต่เมื่อช่วงประมาณต้นเดือน พฤษภาคม “น.ส.จูน” ก็ออกมาบอกลูกค้าทุกคนในกลุ่มหลายๆ กลุ่มว่า เจ้าตัวมีปัญหาโดนโกง ยังไม่สามารถเอาเงินหยวนมาให้ทุกคนได้ แต่ทาง “น.ส.จูน” ก็มีการจัดกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มๆ และจะคุยกับลูกค้าโดยยืนยันว่าจะหาทางเยียวยาให้ และรับปากว่าจะพยายามหาเงินมาคืนให้ 10 เปอร์เซ็นของยอดทั้งหมดของผู้เสียหาย แต่หลังจากที่ “น.ส.จูน” ประกาศได้ 2-3 วัน ก็ไม่มีใครติดต่อได้อีกเลย จนกระทั่งตอนนี้ผ่านมาประมาณ 10 กว่าวันแล้ว ซึ่งก็มีผู้เสียหายหลายรายพยายามติดต่อกับ “น.ส.จูน” ทั้งเบอร์โทรศัพท์ และไอดีไลน์ แต่ทางเจ้าตัวก็จะไม่รับสาย บ่ายเบี่ยงตลอด นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายบางรายไปตามหาตัวถึงคอนโดที่ “น.ส.จูน” อยู่แต่ทางเจ้าตัวก็หนีและตอนนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่า “น.ส.จูน” อยู่ที่ไหน

น.ส.แมว (นามสมมุติ) บอกอีกว่า ส่วนตัวเลขคร่าวๆ ที่ตนทราบเกี่ยวกับผู้เสียหายตอนนี้ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 100 กว่าราย และยังมีผู้เสียหายที่กระจายกันทั่วประเทศ ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งหลักๆ ผู้เสียหายส่วนใหญ่จะมีอยู่ที่ กทม. ระยอง และทางภาคเหนือส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่เชียงใหม่หลายราย เพราะสมาชิกในกลุ่มไลน์ที่เคยอยู่ด้วยกันนั้นมีประมาณ 300 คน และส่วนใหญ่ผู้เสียหายหลายๆ รายก็มีทั้งข้าราชการ และอาชีพอิสระ แต่บางรายก็ระบุว่าไม่สะดวกที่จะออกมาให้ข้อมูลเนื่องจากเกรงจะกระทบการหน้าที่การงาน และในส่วนของค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในขณะนี้ก็ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท โดยในส่วนของตนได้ลงทุนและได้รับความเสียหาย ประมาณ 45,000 บาท และในส่วนของ น.ส.น้ำ ผู้เสียหายอีกรายประมาณ 100,000 บาท โดยในขณะนี้หลังจากที่ทาง “น.ส.จูน” บอกว่าต้องรอให้ครบถึงวันที่นัดกันว่าจะโอนเงิน แต่หากไม่โอนมาก็จะไปแจ้งความ ซึ่งตอนนี้ตนก็ได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.หางดง แต่อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติของ น.ส.ธารารัตน์ หรือ “น.ส.จูน” ทราบว่าเป็นศึกษาสาขาแพทย์ศาสตรปีสุดท้าย ซึ่งตอนนี้ “น.ส.จูน” จะต้องอยู่ในช่วงฝึกงานและกลับมาฝึกงานที่เมืองไทย เนื่องจากที่จีนมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แต่ทาง “น.ส.จูน” ก็กำลังแอบทำเรื่องเพื่อยื่นกับทางสถานฑูตเพื่อจะกลับไปศึกษาที่จีนต่อ ตนจึงเกรงว่าหาก “น.ส.จูน” กลับไปประเทศจีนได้ก็จะไม่สามารถติดตามตัวได้ในที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น