จับหนุ่มไทใหญ่ ก่อเหตุผ้าคลุมหัว บีบคอ ทุบชายชราวัย 82 ปีเอาเงินหนี เผยประวัติติดคุกมา 2 ครั้ง คดียาเสพติดและลักทรัพย์

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 11 มิ.ย.2564 พ.ต.อ.มาโนช สุดสวาสดิ์ ผกก.สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พ.ต.ท.ธนัตถ์ นันศิริ สว.สส. พร้อมชุดสืบสวน ได้ทำการจับกุมตัว นายหล้า (ไม่มีนามสกุล) อายุ 35 ปีชาวไทใหญ่ สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.เชียงใหม่ที่ จ.357/2564 ลงวันที่ 10 มิ.ย.64 พร้อมของกลางเงินสด 2,000 บาท นำตัวดำเนินคดีข้อหา”ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และเป็นเหตุให้ผู็อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ”

การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากช่วงเที่ยงวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีนายมานพ ศิริพันธ์ อายุ 82 ปี บ้านอยู่ ต.แม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม ว่าได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ทราบชื่อนายแดง และนายหล้า ได้ขับรถ จ.ย.ย. มาจอดที่บริเวณหอพักแห่งหนึ่ง ต.แม่สา อ.แม่ริม ก่อนคนร้ายทั้งสองคนจะเดินเข้ามาใช้ถุงผ้า มาคลุมหัวนายมานพ แล้วใช้กำลังล็อกแขนล็อกขา บีบคอ ก่อนล้วงเอาเงินสดในกระเป๋ากางเกงจำนวน 13,440 บาท แล้วหลบหนีไป หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและตรวจสอบภาพวงจรปิด ก็พบว่าคนร้ายทั้งสองเคยพักอาศัยที่หอพักใกล้เคียงที่เกิดเหตุ จึงเสนอศาลออกหมายจับและติดตามล่าตัวก็พบนายหล้า ได้หลบหนีไปที่พื้นที่บ้านเมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จึงติดตามไปจับกุมตัวไว้ได้

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าเดิมเข้ามาเมืองไทยเพื่อทำงานรับจ้างทั่วไป ก่อสร้าง แต่ก็เคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์ และคดียาเสพติด พอออกมาหวังกลับตัวเป็นคนดี หางานสุจริตทำ แต่เพราะจากปัญหาโควิดรุมเร้าทำให้ตกงาน ไม่มีงานทำไม่มีเงินใช้ จึงตัดสินใจก่อเหตุร้ายนี้ขึ้น เพราะรู้ว่าผู้เสียหายเป็นคนมีเงินมีทอง พอได้เงินมาก็แบ่งกันและก็หลบหนีไปกบดานบ้านนอก เพื่อทำไร่ทำสวน ไม่คาดจะถูกจับกุมตัว หลังการสอบสวนได้ควบคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และจะเร่งติดตามล่าตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินดคีตามกฏหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น