ที่ อ.ปัว เลี้ยงผีชนเผ่า เหตุโควิด-19 เพิ่ม 7 ราย

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2564 จากการที่มีผู้เขียนลงในกลุ่มเฟสบุ๊ก น่านบ้านเฮา(ข่าวสารบ้านเมือง) และจากที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรณี โรคโควิด -19 สสจ.น่าน รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย อ.ปัว +7 ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 135 ราย รายละเอียดไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สาเหตุที่พบ เนื่องจากผู้ป่วย 127-128 เป็นชาวบ้าน อยู่พื้นที่บ้านสวนทราย หมู่ 6  ต.ป่ากลาง อ.ปัว โดยได้ไปร่วมงานศพ (หรืองานประเพณีอื่นใดของชนเผ่า) ซึ่งมีญาติพี่น้องชนเผ่า ต่างพื้นที่ ต่างอำเภอได้เดินทางเข้าร่วมงานประเพณีดังกล่าวด้วย ซึ่งคนในหมู่บ้านได้ไปบ้านแม่กับคนป่วยรายที่ 128 ที่ อ.ปัว แล้วได้พากันไปร่วมงานเลี้ยงผี(ประเพณีของชนเผ่า)ของเพื่อนบ้าน โดยเพื่อนบ้านได้เดินทางมาจาก กทม.

จากกรณีพบเคสผู้ป่วยโควิด-19 วันที่ 13 มิ.ย. 2564 จำนวน 2 ราย ในพื้นที่ต.ป่ากลาง อ.ปัว อีกวันต่อมา พบผู้ติดเชื้ออีก 7 ราย ในพื้นที่เดียวกัน รวมเป็น 9 ราย การระบาดนี้ คงไม่ธรรมดาแล้ว ย้อนกลับไปดูไทม์ไลน์ของเคสแรกในพื้นที่ กลับไม่พบความเชื่อมโยงกับบุคคลเสี่ยง แหล่งเสี่ยง มากนัก ใช่  Index case จริงๆ หรือเปล่า

ถ้าไม่ใช่ สาเหตุของการระบาดเป็นใคร อยู่ที่ไหน ติดอย่างไร ผู้ป่วยให้ไทม์ไลน์จริงๆ แล้ว หรือผู้ติดเชื้อในพื้นที่  ยังมีเพิ่มอีก หรือไม่การระบาดนี้ จะลุกลามไปยังหมู่บ้านอื่น หรือต่างอำเภอหรือยัง และอีกหลายๆคำถามที่ผุดขึ้นมา ท่ามกลางสถานการณ์ที่ต้องการความจริง และความรวดเร็วเช่นนี้ ผู้ติดเชื้อ ญาติ ชาวบ้าน และผู้นำชุมชน ต้องให้ความร่วมมือ ชี้เบาะแสการระบาดแก่เจ้าหน้าที่ให้มากที่สุด และเร็วที่สุด เพื่อการควบคุมโรคอย่างทันท่วงที  ในขณะที่ทีมระบาดของแต่ละอำเภอป ระสานนายอำเภอพื้นที่ที่มีกลุ่มชาติชนเผ่า ได้สื่อสารไปยังกลุ่ม ไลน์สั่งการของผู้นำชุมชน ซึ่งเป็นอีกช่องทาง ที่ทำไปพร้อมๆ กับพื้นที่ อ.ปัว

โดยสื่อสารว่า อำเภอใด ตำบลใดหมู่บ้านใด ที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ชนเผ่า มีบุคคลใด ได้ไปร่วมกิจกรรมหรืองานประเพณีใน ต.ป่ากลาง ในช่วงเดือนมิถุนายน 2564 หรือไม่ ควรมีการเฝ้าระวังความเสี่ยงดังกล่าวเอาไว้ก่อน จนกว่าไทม์ไลน์ของผู้ป่วยให้ชัดเจน ไม่ให้แพร่ระบาดออกไปสู่วงกว้าง ไม่อยากให้เกิดคลัสเตอร์ใหญ่ ซ้ำรอยกับพื้นที่เชียงกลาง บอกได้คำเดียวว่า “ยุ่งยากแน่ๆ และจะเหนื่อยแบบสุดๆ”

ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น

ร่วมแสดงความคิดเห็น