เรื่องราวและร่องรอยทางวัฒนธรรมในยุคก่อน มักจะเลือนหายไปไม่มีใครสานต่อหรือสืบทอดอย่างที่ ที่ อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ยังมีหลงเหลืออาชีพยุคโบราณนั่นคือ การฝึกวัวเทียมเกวียน ซึ่งในปัจจุบันนี้ ถือว่าหายากสุดๆ เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไป คนเราใช้รถยนต์รถบรรทุก แทนการใช้วัวควายเทียมเกวียนขนของกันแล้ว แต่ยังมีคนที่ทำอาชีพนี้อยู่ จึงได้ลงพื้นที่ไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง
พบว่าที่สวนบ้านร้องกวาง หมู่ 13 ต.ร้องกวาง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ มี นายกฤษนันท์ เข็มทอง หรือ สล่าอ้น อายุ 32 ปี บ้าน หมู่ 2 ร้องเข็ม ต.ร้องเข็ม อ.ร้องกวาง และนายอิทธิพล สีชมพู หรือ สล่าหนุ่ย อายุ 32 ปี บ้าน หมู่ 13 บ้านร้องกวาง ต.ร้องกวาง เป็นสองเพื่อนสนิท ได้พาผู้สื่อข่าวไปชมการสอนวัวเทียมเกวียน ซึ่งแทบจะหายไปตามกาลเวลา เพราะมีรถยนต์มาแทนวัวควาย
โดยสองสล่าหนุ่ม ได้ฝึกวัวพันธุ์อเมริกันบราห์มัน ลูกผสม อายุ 2 ปี จำนวน 2 ตัว ชื่อเจ้าค้ำ กับเจ้าคูน โดยการเริ่มจากเอาวัวไปใส่ในเกวียนที่เตรียมไว้ฝึกวัว จากนั้นได้ทำการฝึกลากจูงเกวียนไปตามถนน เพื่อฝึกการบังคับกการเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา การวิ่ง การหยุด และเป็นการฝึกพละกำลังของวัว โดยจะสอนวันละ 1 รอบ ประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อให้วัวชินกับเกวียน และคำสั่งของเจ้าของ
โดย นายกฤษนันท์ เข็มทอง หรือ สล่าอ้น เล่าให้ผู้สื่อข่าวว่า สำหรับการฝึกวัวเทียมเกวียนนี้ เป็นการอนุรักษ์อาชีพโบราณ และวัฒนธรรมโบราณให้มีคนสืบสาน ไม่ให้หายไปตามกาลเวลา แม้ว่าอาจจะไม่ได้ใช้เป็นพาหนะสำคัญเช่นในอดีต แต่ก็สามารถใช้งานในสวนเล็กๆ น้อยๆ ได้ เช่น การขน หิน ทราย หรือขนหญ้า ก็สามารถทำได้ เราจึงได้จัดเป็นการฝึกสอนวัวเทียมเกวียนดังกล่าว สำหรับท่านไหน ที่ต้องการจะนำวัวของท่านมาให้พวกเราสอนการเทียมเกวียน สามารถติดต่อมาได้ คิดค่าสอนคอร์สละ 2,500 บาท เอาจนเป็นสามารถใช้งานได้เลย
ทางด้าน นายอิทธิพล สีชมพู หรือ สล่าหนุ่ย กล่าวว่า สำหรับตนเอง เป็นคนเลี้ยววัวเพื่อขาย แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง ราคาวัวของตนเองตั้งราคาไว้สูง เพราะซื้อมาราคาสูง ทำให้ไม่มีใครมาซื้อ ตนเองจึงได้นำมาทำการ ฝึกสอนการเทียมเกวียน จนเก่ง ปรากฏว่า มีคนสนใจวัวคู่นี้ จากที่จะขายคู่ละแสนสอง กลายเป็นขายได้ราคาเพิ่มเกือบเท่าตัว เพียงเพราะว่า วัวสามารถเทียมเกวียนได้ การฝึกวัวเทียมเกวียน จึงสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้วัว ได้อีกทางด้วย ผู้ที่สนใจเชิญแวะไปเยี่ยมการฝึกวัวเทียมเกวียนกันได้
ร่วมแสดงความคิดเห็น