(มีคลิป) “นม” ช่วยเด็กอนุบาล ทต.แม่คือ เหยื่อโควิด-19 ถูกปล่อยทิ้ง ชาวบ้านกลัวนมบูด

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2564 กรณีที่มีกระแสข่าวออกเผยแพร่ตามโลกโลกโซเชียล เกี่ยวกับสิ่งของบริจาคช่วยเด็กอนุบาลติดเชื้อโรคระบาดโควิด-19 ของ ทต.แม่คือ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่พบว่าเด็กอนุบาลติดเชื้อโควิดจากคุณครูคนหนึ่งที่ไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ รพ.ดอยสะเก็ดเมื่อวันที่ 10 เม.ย. จากนั้นไม่สบายป่วยเป็นโรคโควิด-19 แล้วมาสอนหนังสือเด็กอนุบาลฯ จนเด็กอนุบาล ทต.แม่คือ ติดโควิดจำนวน 16 คน จากนั้นจังหวัดเชียงใหม่ ได้เปิด รพ.สนามเฉพาะกิจ ที่ รร.อนุบาลฯ ดังกล่าว จนมีประชาชนสนับสนุนซื้อสิ่งของบริจาค และส่วนมากเป็น นม ขนม อาหาร ข้าวสาร และน้ำดื่ม

มาจนถึงวันนี้สิ่งของดังกล่าวเหลืออยู่จำนวนมาก เช่นน้ำดื่ม อาหาร ขนม และข้าวสาร และนม ถูกปล่อยทิ้งไว้ ไม่นำไปแจกให้เด็กๆ จนมีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งนำภาพ และบอกถึงสิ่งของบริจาคให้เด็กๆ อนุบาล ทต.แม่คือดังกล่าว ทำไมไม่นำไปแจกให้เด็กๆ จึงเป็นห่วงว่า นมจะบูดเสีย เพราะอำนาจการตัดสินใจเป็นของนายอำเภอดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ และนายอำเภอดอยสะเก็ด ก็กำลังเดินทางมารับตำแหน่งใหม่ จึงยังไม่มีคำสั่งดำเนินการมอบสิ่งของที่เหลือ ยังมีจำนวนมากกองเท่าภูเขา กองอยู่ที่ลานหน้าสำนักงาน ทต.แม่คือ และยังมีกระแสวิพากวิจารณ์ว่าสิ่งของที่นำไปแจกนั้นได้ผ่านคณะกรรมการถูกต้องหรือไม่ และแจกกับชาวบ้านไม่ได้แจกเด็กๆ ตามวัตถุประสงค์ของผู้นำมามอบให้หรือไม่นั้น ?

เรื่องสิ่งของบริจาคดังกล่าว ผู้สื่อข่าวตรวจสอบและสอบถามไปที่ นายนนทวัฒน์ วรรณา นายกเทศมนตรีตำบลแม่คือ ได้คำตอบว่า ตนไม่ขอให้ข่าวใดๆ และบอกเพียงว่า เรื่องการนำของออกไปจาก ทต.แม่คือ มีคณะกรรมการ และมีนายอำเภอดอยสะเก็ดเป็นผู้รับผิดชอบเท่านั้น จากนั้นมอบหมายให้ น.ส.สุริศรี สราพฤกษ์ ปลัดเทศบาลตำบลแม่คือ ลงพื้นที่ไปดูโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลแม่คือ

น.ส.สุริศรี สราพฤกษ์ ปลัดเทศบาลตำบลแม่คือ กล่าวถึงเรื่องสิ่งของบริจาค บอกว่า สำหรับนม ที่ได้รับบริจาคมาจำนวนกว่า 2,000 ลัง และนำแจกให้เด็กๆ และชาวบ้านไปจำนวนมาก เหลือเพียงประมาณ 500 ลังเท่านั้น ปลัดเทศบาลตำบลแม่คือ ตอบเพียงเท่านี้กรณีสิ่งของบริจาค

ปลัดเทศบาลตำบลแม่คือ กล่าวอีกว่า การเปิดการเรียนการสอนเด็กอนุบาลของโรงเรียนอนุบาล ทต.แม่คือ ได้เปิดการเรียนการสอนตามปกติแล้ว แต่ให้ผู้ปกครองมาส่ง และรับกลับ หากนักเรียนยังร้องให้งอแงก็ให้กลับบ้านไปก่อนได้ ส่วนมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ก็ยังมีมาตราการป้องกันเข้มงวด มีการตั้งจุดจัดคัดกรอง จุดวัดอุณหภูมิ ทั้งเด็ก และผู้ปกครองที่เดินทางมาส่งบุตรหลานด้วย ส่วนเด็กที่เข้ามาเรียน และช่วงให้นอน ก็ให้อยู่ห่างกันเกิน 1 เมตร พร้อมเชิญคุณหมอมาให้ความรู้ผู้ปกครอง และประเมินสถานการณ์ของเด็ก และผู้ปกครองด้วยในการป้องกันโรคโควิด-19 ดังกล่าวในช่วง 1 เดือนแรกนี้ด้วย

เปิดเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมาเด็กๆ ที่ติดเชื้อโควิด-19 ก็กลับมาเรียนทั้งหมดแล้ว ส่วนหนึ่งอยู่อนุบาล 1 และอีกส่วนหนึ่งอยู่ที่ศูนย์เด็กเล็กอยู่ ทุกคนแข็งแรง ปกติดี ซน และร่าเริงดีมาก

ร่วมแสดงความคิดเห็น