ภ.จว.ลำปาง แถลงข่าวกรณี การเสนอข่าวทางสื่อมวลชน มีผู้เข้าไปถ่ายคลิปที่ด่านตรวจยาเสพติด สภ.แม่พริก 

วันที่ 20 มิถุนายน 2564 ตามที่มีการนำเสนอข่าวทางสื่อมวลชน กรณีมีผู้เข้าไปถ่ายคลิป ที่ด่านตรวจยาเสพติด สภ.แม่พริก นั้น ภ.จว.ลำปาง ขอเรียนว่า ด่านที่ปรากฏตามข่าวคือด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก ซึ่งได้รับอนุมัติจาก ครม.เป็นด่านถาวร ให้ตั้ง 24 ช.ม.โดยมีเจ้าหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด จึงไม่ต้องเก็บวัสดุอุปกรณ์ใดๆในการตั้งด่าน ด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก มีหน้าที่ในการตรวจค้นยานพาหนะและบุคคลเพื่อสกัดกั้นยาเสพติด โดยรอบปีที่ผ่านมาด่านยาเสพติดแม่พริกมีผลการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ได้จำนวนมาก ยาบ้าจำนวนหลายสิบล้านเม็ด ไอซ์ หลายร้อยกิโลกรัม ขณะที่มีการเข้ามาถ่ายคลิปเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านอยู่ระหว่างผลัดเปลี่ยนหน้าที่กันและกำลังจะเข้าประจำด่านซึ่ง ขณะนั้นมีฝนตกเล็กน้อย โดย ร.ต.อ.นิคม ธรรมวงศ์ษา รอง สวป.สภ.แม่พริก กำลังตรวจสอบข้อมูลรถต้องสงสัยอยู่ สำหรับ ร.ต.อ.นิคม ฯ นั้นเป็นคนตรงไปตรงมา พูดจาเสียงดังเป็นปกติ มีความขยันขันแข็ง มีปฏิภาณไหวพริบดีสามารถจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ได้หลายคดี ขณะมีการถ่ายคลิป ร.ต.อ.นิคม ฯ ได้ตอบคำถามและพูดคุยด้วยเสียงดังตามปกติของตน ไม่มีการพูดคำหยาบหรือคำไม่สุภาพหรือตะคอกใส่ผู้ถ่ายคลิปแต่อย่างใด จากการที่เป็นคนพูดเสียงดังอาจทำให้มีบางคนไม่ชอบใจได้ แต่เมื่อข่าวเรื่องนี้เผยแพร่ไปในสื่อสังคมออนไลน์ ร.ต.อ.นิคมฯ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านแม่พริก ก็ได้รับคำชื่นชมจากประชาชนเป็นจำนวนมาก

ในการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้ามาทำการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่สามารถตรวจสอบการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านช่องทางอื่นได้ จาก ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ร้องเรียนของหน่วยราชการต่างๆ เช่น ศูนย์ดำรงธรรม ,ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของหน่วยงานตำรวจต่างๆ เป็นต้น การเข้ามาตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะปฏิบัติหน้าที่ ถ้าเป็นการเกะกะหรือขัดขวางในการปฏิบัติงานอาจเป็นความผิดฐานขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวล ป.อาญา มาตรา 138 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้านำคลิปไปเผยแพร่ต้องระมัด ระวัง อาจจะผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตาม ป.อาญา มาตรา 328 ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท การเข้าไปถ่ายคลิปหรือไลฟ์สดในสถานีตำรวจ ตู้ยาม ป้อมยาม หรือ ที่ทำการในการตั้งด่าน ซึ่งไม่ใช่จุดที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปได้ โดยไม่ถือว่าเป็นสาธารณสถานนั้น ผู้ที่เข้าไปอาจมีความผิดตามกฎหมายได้ หรือกรณีนำไปตัดต่อ บิดเบือนคลิป เป็นการหลอกลวง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย จะมีความผิด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1) โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท

ร่วมแสดงความคิดเห็น