(มีคลิป) ยื่นหนังสือต่อ ปปช.หลังพบมีการนำต่างด้าว สวมทะเบียนบ้านถึง 6 คน วอน จนท.ดำเนินการจับกุม

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 เวลา 10.00 น. นางสาวทวีวรรณ อดีตข้าราชการบำนาญ ซึ่งเป็นพี่สาวของนางมะลิวัลย์ เจ้าของบ้าน ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ท.ศิระ ปรุฬห์ปวเรศจิรวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตจังหวัดแม่ฮ่องสอน (ปปช.แม่ฮ่องสอน) จากกรณี วันที่ 2 มิถุนายน 2564 ได้มี นางแซแหมะ ไม่มีชื่อสกุล ระบุอยู่ ตรอกขัวแดง 1 ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้มาขอรับเงินที่โอนจากต่างประเทศ จากธนาคาร ธกส.สาขาแม่ฮ่องสอน โดยสถานที่ระบุในบัตรพบว่าได้ตรงกับบ้านของมารดาของเจ้าหน้าที่ ธกส. จึงได้มีการตรวจสอบและพบว่า ในทะเบียนบ้านหลังดังกล่าว (ตรอกขัวแดง 2 ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน) ได้มีรายชื่อของต่างด้าวชาวพม่า สวมเข้ามาในบ้านถึง 6 ราย เมื่อ 17 พ.ค. 2562 และ 24 พ.ค. 2562 ได้แก่ 1. นายพิลี่ ไม่มีชื่อสกุล อายุ 42 ปี 2. นางแอวารี ไม่มีชื่อสกุล อายุ 38 ปี 3. นางแซแหมะ ไม่มีชื่อสกุล อายุ 31 ปี 4. นางสาวณัฏฐธิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี 5. นายจายทุน (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี และ 6. นายจายของ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี โดยที่เจ้าของบ้านไม่ได้อนุญาตให้บุคคลอื่นเข้ามาอาศัยอยู่ในทะเบียนบ้านแต่อย่างใด

แต่เมื่อตรวจสอบลึกลงไปกลับพบว่า ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2564 ช่วงระหว่างเวลา 19.00-20.00 ได้มีเจ้าหน้าที่รัฐ 2 คนเดินทางไปพบกับ เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นวันก่อนเกิดเหตุและให้ข้อมูลกับเจ้าของบ้านว่า สามารถแสดงความจำนงขอนำรายชื่อต่างด้าวทั้ง 6 รายออกจากบ้านได้เพียงแค่ไปแจ้งที่สำนักทะเบียนราษฎร์เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน และการที่มีต่างด้าวเข้ามาอาศัยอยู่ในทะเบียนบ้าน ไม่ได้สร้างปัญหาใดใดกับเจ้าของบ้าน

โดยได้พบว่า กลุ่มขบวนการดังกล่าว ได้หลอกลวงบุตรชายเจ้าของบ้าน อายุ 24 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดและไม่มีงานทำ ให้เป็นผู้ดำเนินการอนุญาตให้นำรายชื่อต่างด้าวทั้ง 6 รายเข้ามาอาศัยอยู่ทะเบียนบ้านหลังดังกล่าวเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยให้หลานชายเจ้าของบ้านเป็นนายจ้างของต่างด้าวทั้งหมด ทั้งที่ไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการใดใด

และจากการเข้าพบกับพนักงานสอบสวน ทางพนักงานสอบสวนคือ ร.ต.อ.สุวรรณ เจริญสุข พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ได้แจ้งว่า คดีดังกล่าวยังไม่ได้ตัดเป็นคดีอาญา เนื่องจากอยู่ระหว่างการขอข้อมูลจากสำนักงานเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน หลักฐานต่าง ๆ ยังไม่เพียงพอ และตามระเบียบของ สตช.ให้เวลาในการดำเนินการสอบสวนหาข้อมูลภายใน 30 วัน

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในการนำรายชื่อของบุคคลต่างด้าว เข้าไปสวมอยู่ในทะเบียนบ้าน ทร.14 มีความเป็นไปได้สูงที่จะเชื่อมโยงและเกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการทำผิดกฎหมายการรับทำบัตรประจำตัวให้กับบุคคลต่างด้าวให้มีชื่อในระบบทะเบียนบ้านของคนไทย มีพฤติกรรม การทำธุรกรรมทางการเงินผิดกฎหมายข้ามชาติ อาจจะเป็นการฟอกเงินและทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด จึงได้ยื่นหนังสือต่อ ปปช.แม่ฮ่องสอน ทำการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นและเร่งรัดให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเลขคดีโดยเร็ว

อย่างไรเรื่องที่เกิดขึ้น แหล่งข่าวในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน ระบุว่า กลุ่มขบวนการดังกล่าว ได้มีการเรียกรับเงินต่างด้าวรายละ 2-3 หมื่นบาท ในการสวมสิทธิ์เข้าในทะเบียนบ้านคนไทย และบางรายได้มีการทำบัตรประชาชนปลอม โดยเรียกรายละ ไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นบาท ทั้งนี้ในเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน พบว่ามีการกระทำในรูปแบบดังกล่าว กว่า 200 ราย โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนในขณะนั้น ร่วมกับปลัดคนหนึ่ง เป็นผู้ดำเนินการและได้เข้าพบพนักงานสอบสวนซึ่งในตอนแรกไม่ยอมรับแต่ต่อมาเมื่อเห็นพยานหลักฐานเอกสารจึงยอมรับว่าเป็นผู้ดำเนินการ

นอกจากในสำนักงานทะเบียนราษฎร์เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน แล้ว พบว่าในสำนักงานทะเบียนราษฎร์อำเภอแห่งหนึ่งก็มีการทำบัตรประชาชนปลอมให้กับต่างด้าว ทั้งที่เกิดในพม่าและเข้ามาอาศัยอยู่ในไทยที่บ้านห้วยโป่งแข่ หย่อมบ้านไม้แงะ หมู่ 8 ต.ปางหมู อ.เมือง จนได้บัตรประจำตัวประชาชนและใช้เงินซื้อตำแหน่งเข้าเป็น อาสารักษาดินแดนเมื่อปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา ล่าสุดได้ข่าวว่า กลุ่มขบวนการดังกล่าว กำลังพยายามวิ่งเต้นเพื่อล้มคดีให้ได้ เนื่องจากจะลามไปกระทบต่อข้าราชการระดับสูง ที่เคยร่วมขบวนการมาแต่ต้น


ทศพล / แม่ฮ่องสอน

ร่วมแสดงความคิดเห็น