เหตุการณ์นึ้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 นายแอกพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี และ น.ส.นิรมล (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น เข้าไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.สูงเม่น จ.แพร่ โดยมี ร.ต.อ.อัศดง คำแปงคำ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สูงเม่น ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนประจำวัน สภ.สูงเม่น รับแจ้งความร้องทุกข์
โดย นายเอกพงษ์ฯ ให้กการว่า เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ มี น.ส.เอ (นามสมมุติ) ได้ไปกู้เกินออนไลน์ กับบริษัท แห่งหนึ่ง แต่ทางบริษัทระบุว่า น.ส.เอ (นามสมมุติ) ไม่จ่ายเงินกู้ ได้มีพนักงานบริษัท ที่ใช้เฟซบุ๊คชื่อหนึ่ง จึงได้โพสต์ลงเพจร้านอาหารเพจหนึ่ง เพื่อประจานบอกให้ น.ส.เอ (นามสมมุติ) มาชำระเงินด้วย โดยได้โพสต์ในคอมเมนต์ของร้านอาหารดังกล่าว หลายโพสต์
นอกจากจะมีภาพคนกู้แล้ว ใช้เฟซบุ๊คชื่อหนึ่ง ยังมีเอาภาพของตน และเพื่อนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางการเงินในครั้งมาประจานด้วย ตนเองเห็นว่า การกระทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง เพราะตนเอง และเพื่อนไปเกี่ยวข้องด้วย จึงได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวัน เพื่อเป็นหลักฐานหากภายหลังผู้แจ้งได้รับความเสียกหาย และเป็นความผิดอาญาจะร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อไป
นายเอกพงษ์ เผยต่อไปว่า สำหรับคนโพสต์ที่ใช้ชื่อดังกล่าว ตนเองได้ลองแอดเป็นเพื่อนเพื่อแชตไปถาม ขอให้ลบภาพของตนเองออก ชายคนดังกล่าวก็ไม่ยอม แถมท้าให้ไปแจ้งความ และพูดว่า ไปแจ้งเลย ไม่มีตำรวจคนไหน มาทำอะไรได้หรอก เอะอะอะไรก็แจ้งความ แจ้งความ ไปแจ้งตอนนี้เลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเรื่องการกู้เงินกู้ออนไลน์ กำลังระบาดหนัก เพราะสามารถกู้ง่าย แต่ต้องลงทะเบียน และกรอกกรายละเอียด ต่างๆ ทุกอย่าง จนเป็นช่องทางให้ นายทุนเงินกู้ออนไลน์ สามารถทราบรานละเอียดต่างๆ ของผู้กู้ทั้งหมด แม้กระทั่งเบอร์โทร เพื่อน หรือ ญาติๆ หาก ผู้กู้ผิดสัญญาเงินกู้ ก็จะไล่ทวงเงินไปทั่ว แม้ว่าบุคคลนั้นจะเกี่ยวข้องหรือไม่ตามตาม จนทำให้มีคนมาแจ้งความทุกวัน
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงฝากเตือนว่า ใครก็ตามที่จะกู้เงิน ไม่ควรให้รายละเอียด โดยเฉพาะ บัตรประจำตัวประชาชน ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ห้ามเด็ดขาด เพราะพวกนี้จะนำเอกสารเราไปทำอะไรต่างๆ นานา ได้ และที่สำคัญ การให้ข้อมูลต่างๆ ด้านอิเล็กทรอนิค โดยเฉพาะกการทำทางออนไลน์ ต้องระมัดระวัง เพราะตอนนี้โจรมันเก่งสามารถแฮกข้อมูลต่างๆ ของเราได้ จึงฝากเตือนด้วย
ร่วมแสดงความคิดเห็น