เตะสมราคาเต็ง 1 ยูโร 2020 สิงโตคำรามถล่ม ยูเครน 4-0 ลิ่วตัดเชือกรอบ 25 ปี ยูโร

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2020” รอบก่อนรองชนะเลิศ หรือรอบ 8 ทีมสุดท้าย คู่ที่ 4 เป็นการพบกันระหว่าง “สิงโตคำราม” อังกฤษ ลงฟาดแข้งกับ ยูเครน ที่สตาดิโอ โอลิมปิกโก้ กรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อคืนวันที่ 3 กรกฎาคม

สำหรับผลงานรอบที่ผ่านมา สิงโตคำรามนั้นล้มคู่ปรับตลอดกาลอย่าง “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยสกอร์ 2-0 ส่วนทางด้านของยูเครนนั้น ได้ประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 120+1 เอาชนะ สวีเดน ไปได้ 2-1 ทำสถิติเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรก

เกมนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษจัดทัพในระบบ 4-2-3-1 โดยรายชื่อ 11 ตัวจริง ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู จอร์แดน พิกฟอร์ด, กองหลัง ไคล์ วอล์กเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุก ชอว์, กองกลาง ดีแคลน ไรซ์, คาลวิน ฟิลลิปส์, แนวรุก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, เจดอน ซานโช่, เมสัน เมาท์ และกองหน้าตัวเป้า แฮร์รี่ เคน

ขณะที่ อันเดร เชฟเชนโก้ เฮดโค้ชทีมชาติยูเครนใช้ระบบการเล่น 3-4-1-2 โดยผู้เล่น 11 ตัวจริง ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู จอร์จี้ บุชชาน, กองหลัง อิลเลีย ซาบาร์นี่, เซอร์ฮี คริฟต์ซอฟ, ไมโคล่า มัตวีเยนโก้, กองกลาง โอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ, วิตาลี ไมโคเลนโก้, เซอร์ฮี ซีดอร์ชุก, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, ตัวรุก มีโคล่า ชาปาเรนโก้, คู่กองหน้า อันดรี ยาร์โมเลนโก้ และโรมัน ยาเรมชุก

ครึ่งแรกเริ่มไม่ถึง 4 นาที อังกฤษพังประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลากบอลตัดเข้ากลางก่อนแทงทะลุช่องให้ แฮร์รี่ เคน หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปพุ่งชาร์จบอลสวนตัว จอร์จี้ บุชชาน นายด่านยูเครนเข้าไปตุงตาข่ายเป็นประตูที่ 2 ใน 2 นัดติดต่อกันของกัปตันทัพสิงโตคำรามจากการลงสนามเป็นนัดที่ 5 ในทัวร์นาเมนต์นี้

จากนั้นเป็นฝ่ายของยูเครนพยายามครองบอลบุกหวังทวงประตูตีเสมอ ขณะที่อังกฤษตั้งเกมรับคุมโซนได้เหนียวแน่น และชิงจังหวะบุกสวนกลับเร็วขึ้นมา แต่นาทีที่ 17 อังกฤษจ่ายบอลพลาดไปเข้าทางโรมัน ยาเรมชุก ลากบอลเข้าไปซัดติดเซฟ จอร์แดน พิคฟอร์ด และจบครึ่งแรก อังกฤษ ขึ้นนำ ยูเครน 1-0

ครึ่งหลังเริ่มเกมไม่ถึงนาที อังกฤษได้ลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้าย และเป็น ลุก ชอว์ โยนบอลให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เติมเกมรุกขึ้นมาโขกบอลเต็มหัวเข้าประตูไปให้อังกฤษขยับสกอร์หนี ยูเครน 2-0 จากนั้นนาทีที่ 50 ทัพสิงโตคำรามทะลวงประตูที่ 3 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ไขว้บอลหลังให้ ลุก ชอว์ ขึ้นมาเปิดบอลให้ แฮร์รี่ เคน ได้โหม่งบอลเข้าไปเป็นประตูที่ 2 ของตัวเองในเกมนี้ และเป็นประตูที่ 3 ของเคนในยูโร 2020

นาทีที่ 63 อังกฤษยิงทิ้งขาดเป็น 4-0 จากจังหวะที่ เมสัน เมาท์ เปิดลูกเตะมุมให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ลงมาเป็นตัวสำรองได้ขึ้นโขกโล่งๆ บอลกดพื้นเข้าประตูไปอย่างสวยงาม จากนั้นอังกฤษทยอยเปลี่ยนตัวหลักออก และส่งตัวสำรองลงสนามมายืดเส้นยืดสายบ้าง แต่ไม่มีประตูเพิ่มเติม

จบเกม อังกฤษ ถล่มชนะ ยูเครน 4-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จในรอบ 25 ปี นับตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่ทำได้ในยูโร 1996 นอกจากนี้ อังกฤษ ยังทำสถิติไม่เสียประตู 5 นัดติดต่อกันในเมเจอร์ทัวร์นาเมนต์เป็นทีมแรกอีกด้วย โดย อังกฤษ จะเข้าไปตัดเชือกกับ เดนมาร์ก ที่เวมบลีย์ สเตเดียม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คืนวันที่ 7 กรกฎาคม เวลา 02.00 น.

ร่วมแสดงความคิดเห็น