ราชทัณฑ์พร้อมปลูกฟ้าทะลายโจร 141 ไร่ เตรียมลงนาม MOU ร่วมกับ รพ. ตั้งศูนย์วิจัย-แปรรูป

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการประชุมคณะทำ งานส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพรในเรือนจำ /ทัณฑสถาน ว่า ขณะนี้มีเรือนจำ ที่ดำเนินการปลูกพืชสมุนไพรแล้ว 106 แห่งทั่วประเทศ พื้นที่ปลูก 97 ไร่ สมุนไพรที่ปลูก อาทิ ฟ้าทะลายโจร ว่านหางจระเข้ บอระเพ็ด ว่านรางจืด กระชาย และมะขามป้อม ซึ่งในส่วนของการปลูกสมุนไพรฟ้าทะลายโจรอย่างเร่งด่วนนั้น มีเรือนจำ ที่พร้อมในการปลูก 125 แห่ง พื้นที่เพาะปลูก 141 ไร่ แบ่งเป็นทัณฑสถานเปิดและเรือนจำ ชั่วคราว 47 แห่ง พื้นที่ปลูก 91 ไร่ เรือนจำ /ทัณฑสถาน 78 แห่ง พื้นที่ปลูก 50 ไร่

ล่าสุด ทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง จังหวัดระยอง นำ ร่องเป็นแห่งแรกในการเพาะกล้าเมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจรแล้ว ส่วนแผนดำเนินการจะแบ่งเป็น 3 ระยะคือ ปลูกเพื่อนำส่งสถาบัน, โรงพยาบาล เพื่อแปรรูปเป็นผงอัดเม็ดหรือแคปซูล ทำ MOU ร่วมกับสถาบัน, โรงพยาบาล ตั้งศูนย์ศึกษา วิจัย ผลิตแปรรูป พัฒนายกระดับให้เป็นศูนย์การเรียนรู้การปลูกแบบครบวงจร เพื่อให้บริการแก่ประชาชน ชุมชนให้มาศึกษาดูงาน โดยเชื่อมโยงกับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า กรมราชทัณฑ์มีพื้นที่ในแต่ละเรือนจำ ในการปลูกฟ้าทะลายโจร เราจึงควรนำ ร่องเป็นตัวอย่าง โดยตนทราบว่าเราสามารถที่จะขยายพันธุ์ได้ภายใน 1 เดือน โดยวิธีการปักชำ ทาบกิ่ง ซึ่งจะได้เมล็ดเร็วกว่าการเพาะต้นกล้าและใช้โรงเรือนรักษาอุณภูมิให้เหมาะสม ซึ่งตรงนี้ต้องปรึกษากับกระทรวงเกษตรฯ อีกครั้ง และการทำ งานของคณะกรรมการชุดนี้ ตนอยากให้รวบรวมความรู้ทั้งหมด ทั้งการปลูก การขยายพันธุ์ การนำ มาใช้รักษาโรคและข้อดีต่างๆ ทำเป็นคู่มือการปลูกแล้วส่งให้คณะรัฐมนตรี เพื่อเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการให้แต่ละหมู่บ้านในประเทศ ได้มีการปลูกไว้ใช้ได้ในอนาคต ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ดีในการส่งเสริมพืชสมุนไพร และสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ ซึ่งจะเป็นการลดการสูญเสียและพึ่งตนเองได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบัน สมุนไพรไทยถูกนำมาใช้ร่วมรักษาโรคโควิด-19 ซึ่งสามารถบรรเทาอาการผู้ป่วยในกลุ่มที่มีอาการเล็กน้อยได้ เช่น ฟ้าทะลายโจร เป็นต้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการขยายพื้นที่ปลูกสมุนไพร และส่งเสริมอาชีพผู้ปลูกสมุนไพรเพิ่มขึ้น รัฐบาลจึงเร่งปรับพื้นที่เรือนจำทั่วประเทศ ให้เป็นพื้นที่ปลูกสมุนไพร เนื่องจากเรือนจำแต่ละแห่งมีพื้นที่เหลือใช้ จึงควรนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และบางแห่งได้เตรียมหน้าดินสำหรับเพาะปลูกสมุนไพร โดยเฉพาะฟ้าทะลายโจร
โดยแนวทางดังกล่าว ช่วยส่งเสริมพัฒนาผู้ต้องขังให้มีความรู้ทักษะเรื่องสมุนไพร พร้อมนำไปต่อยอดเป็นอาชีพได้ภายหลังได้รับการปล่อยตัว และจะประสานกับหน่วยงานภาครัฐ – เอกชน เพื่อพิจารณาแผนรองรับด้านการตลาดระยะต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น