รพ.สวนดอก ผนึกกำลังอีกครั้ง จับมือ รพ.ประสาทเชียงใหม่ เปิดห้อง ICU ความดันลบ รับผู้ป่วยหนัก COVID-19 ระลอก 4

รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มช. ร่วมกับ รพ.ประสาทเชียงใหม่ ผนึกกำลังอีกครั้ง ปรับห้อง ICU ความดันลบ 11 ห้อง รับผู้ป่วยหนัก COVID-19 ระลอกใหม่ ด้าน รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ปรับปรุงหอผู้ป่วยโรคปอด ตึกนิมมานเหมินทร์ 10 เตียง รับผู้ป่วยตั้งครรภ์ ผ่าคลอดติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ 1 ราย

ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า “เนื่องจากในการระบาดระลอกใหม่นี้ มีจำนวนผู้ป่วยปานกลางถึงหนักมากเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีความจำเป็นจะต้องเปิดห้อง ICU ความดันลบ เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ จึงได้ประสานความร่วมมือกับ รพ.ประสาทเชียงใหม่ อีกครั้ง ในการปรับห้อง ICU ความดันลบ จำนวน 10 เตียง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยที่มีอาการหนัก เช่น ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ ผู้ป่วยมีอาการปอดอักเสบรุนแรง โดยจะมีบุคลากรทั้งแพทย์ และพยาบาล ที่เชี่ยวชาญในการดูแลผู้ป่วยวิกฤต จากคณะแพทยศาสร์ มช. มาดูแลผู้ป่วยทั้งหมด โดยใช้อุปกรณ์ที่ขนย้ายมาจาก รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ มีการประสานกันทั้งอุปกรณ์และระบบยาต่างๆ ที่จะหมุนเวียนจาก รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เข้าไปใช้ ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่าง 2 องค์กร เพื่อดูแลผู้ป่วยในภาวะวิกฤตที่ทวีความรุนแรงขึ้นในขณะนี้อีกครั้ง

ขณะเดียวกัน หอผู้ป่วยโรคปอด อาคารนิมมานเหมินทร์ ที่ได้ให้บริการผู้ป่วยโควิด-19 ในรอบที่ 3 มาเป็นเวลายาวนาน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปิดการให้บริการชั่วคราว เพื่อปรับปรุงห้องในระยะเวลาอันสั้น ได้แก่ ปรับปรุงกล้องวงจรปิด ระบบระบายอากาศ เปลี่ยนไส้กรอง เครื่องกรองอากาศ ประตู ผนัง ฝ้าเพดานที่ชำรุด และตรวจสอบระบบ เพื่อความปลอดภัยของบุคลากร พร้อมทั้งได้ย้ายผู้ป่วยไปที่ห้องไอซียู รพ.ประสาทเชียงใหม่ และปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มมากขึ้น ทาง รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ จึงได้เปิดบริการหอผู้ป่วยหนักทั้ง 2 แห่ง

โดยแบ่งอัตรากำลังแพทย์และพยาบาล ออกเป็น 2 ส่วน เพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่นี้ โดยรวมศักยภาพหอผู้ป่วยโรคปอดรับได้จำนวน 11 เตียง รพ.ประสาทเชียงใหม่ รับได้จำนวน 10 เตียง รวม 21 เตียง สำหรับรับผู้ป่วยสีเหลือง สีส้ม และผู้ป่วยสีแดงที่ใส่เครื่องช่วยหายใจ และปัจจุบันที่ หอผู้ป่วยโรคปอด อาคารนิมมานเหมินทร์ มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายแรกเข้ารับรักษาแล้ว เป็นหญิงตั้งครรภ์ผ่าคลอด ตรวจพบเชื้อด้วยวิธีแรพิดแอนติเจนเทสต์ ผลเป็นบวก จึงผ่าคลอดในห้องผ่าตัดผู้ป่วยโควิด-19 และหลังผ่าตัดแล้วได้นำลูกไปห้องสังเกตอาการ ส่วนผู้ป่วยย้ายไปหอผู้ป่วยโรคปอด อาคารนิมมานเหมินทร์ ซึ่งปรับปรุงเสร็จทันเวลา”

ผู้อำนวยการ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในอนาคตหากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสาตร์ มช. จะได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมจัดหาสถานที่อื่นเพิ่มเติม ในการรองรับผู้ป่วยเหมือนในระลอกที่ 3 โดยตอนนี้ มช. และคณะแพทยศาสตร์ มช. ได้เตรียมการ ในการหาพื้นที่บางส่วนใน มช. ที่ไม่ใช่หอพักนักศึกษาไว้ในเบื้องต้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือทางจังหวัด หากมีจำนวนผู้ป่วยเพื่มมากขึ้นจะได้ดำเนินการได้ในทันที

ภาพของการระบาดอย่างรุนแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในครั้งนี้ เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้จะมีเชื้อของสายพันธ์ุอินเดียซึ่งติดได้ง่าย ลงปอดได้มาก อัตราการเสียชีวิตสูงมากขึ้น หากไม่อยากเห็นภาพการระบาดแบบนี้เกิดขึ้นที่จ.เชียงใหม่ เราต้องช่วยกัน ไม่อยู่ที่แออัด ไม่ถอดหน้ากากพูดคุย ไม่ทานอาหารร่วมกัน ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่าง ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามนี้อย่างเคร่งครัด และหากมีโอกาสได้รับการฉีดวัคซีน ขอให้สมัครเข้ารับวัคซีน เพื่อจะได้มีภูมิคุ้มกันระดับหนึ่ง ในการป้องกันการป่วยหนัก

ร่วมแสดงความคิดเห็น