(มีคลิป) ภาพประวัติศาสตร์ปิดสนามบินเชียงใหม่ เงียบเหงา ไฟล์เที่ยวบินเป็นศูนย์ ร้านค้า ร้านอาหารปิดไฟมืด

วันนี้ (22 ก.ค. 64) รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้มีการประกาศกำหนดห้ามสายการบิน เข้า-ออก และ รับ-ส่ง ผู้โดยสารใน 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม เป็นเวลา 14 วัน โดยเริ่มตั้งวันที่ 21 ก.ค.64 ทำให้ขณะนี้ไม่มีเที่ยวบินในประเทศแม้แต่เที่ยวเดียวทำการบินรับส่งผู้โดยสาร ขณะที่ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจบรรยากาศที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ พบว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา หลังจากที่ทางสนามบินได้หยุดให้บริการกับประชาชนและผู้เดินทางในทุกสายการบิน โดยทุกจุดเช็คอินของแต่ละสายการบินปิดไฟมืด ไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำจุด และในสนามบินนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการปิดไฟบางส่วนเพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน ส่วนร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของฝากภายในสนามบิน ส่วนใหญ่พบว่าปิดให้บริการแทบทั้งสิ้น และมีเพียงแค่ร้านกาแฟบางร้านที่ยังคงเปิดบริการให้กับพนักงานของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ที่ยังเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ในส่วนของผู้โดยสารไม่มีใครเข้ามาใช้บริการ ทุกเก้าอี้ว่างโล่ง ถือเป็นภาพประวัติศาสตร์ครั้งแรก ที่พบเห็นภาพบรรยากาศลักษณะนี้ในท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตั้งแต่เปิดให้บริการครั้งแรกในปี พ.ศ.2531 เป็นต้นมา

ขณะที่บริเวณภายนอกอาคารสนามบินนั้น พบว่ายังมีเจ้าหน้าที่บางส่วนเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ โดยเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งก่อนการเข้าอาคารสนามบินนั้น ยังคงมีการตรวจกระเป๋าและอุปกรณ์ที่นำติดตัวมา รวมไปถึงยังมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ตามมาตรการ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่มีการเปิดให้เข้าออกได้เพียงบริเวณประตู 4 และประตู 5 ของอาคารเพียงเท่านั้น นอกจากนี้แล้ว ในส่วนของอาคารด้านบนซึ่งเป็นโซนเข้าเกทสนามบิน เพื่อไปขึ้นเครื่องนั้นก็พบว่ามีการปิดไฟเงียบ รวมไปถึงโซนพื้นที่รอบนอกสนามบิน ที่ก่อนหน้านี้จะมีรถของผู้โดยสารและผู้เดินทางเข้ามาใช้บริการจอดจนเต็มลานจอดนั้น ก็พบว่ากลายเป็นพื้นที่โล่งแทบไม่มีรถจอด

โดยทางด้าน น.ท.มัธยัณห์ ไกรศรทองศรี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ภายหลังการตามคำสั่งของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ในการปิดสนามบิน 14 วัน ท่าอากาศยานเชียงใหม่จึงได้ดำเนินการตามคำสั่ง โดยเมื่อทำการปิดทุกอย่างภายในอาคาร และเมื่อเที่ยวบินเป็นศูนย์แล้ว ก็จำเป็นที่จะต้องมีการลดพลังงานด้วย และจะเปิดไฟแสงสว่างเท่าที่จำเป็นเท่านั้น แต่ในเรื่องของการรักษาความปลอดภัย ก็ยังคงจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลทรัพย์สิน และเรื่องของความปลอดภัยภายในตัวอาคารยังคงดำเนินการอยุ่อย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของร้านค้าภายในตัวอาคาร ตอนนี้ก็ได้มีการปิดการให้บริการทั้งหมด เพราะจากการที่ไม่มีผู้โดยสาร ร้านค้าก็ต้องปิดให้บริการไปโดยปริยาย รวมไปถึงเรื่องของเที่ยวบินในเวลานี้ก็ไม่มีเลย ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่เคยมีมา หลังจากที่สนามบินเชียงใหม่ได้เปิดให้บริการมาในรอบหลาย 10 ปีที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกที่สนามบินไม่มีไฟล์เที่ยวบิน

ส่วนในเรื่องของพนักงาน และเจ้าหน้าที่ของสนามบินนั้น ทุกคนก็เข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และทุกคนมีความกระตือรือร้นในเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่ โดยเมื่อได้รับคำสั่งก็พร้อมปฏิบัติตาม และทราบว่าตัวเองต้องมาทำหน้าที่อะไร แต่ตอนนี้ก็มีเจ้าหน้าที่บางส่วน ที่ได้มีการสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยการ work from home และอีกส่วนที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องของการทำความสะอาดสถานที่ เพื่อเตรียมความพร้อมเมื่อถึงเวลาสนามบินสามารถกลับมาเปิดได้แล้ว ก็พร้อมที่จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาให้บริการประชาชน และผู้ที่เดินทางเช่นเดิม ซึ่งหลังจากที่สนามบินได้มีการปิดให้บริการในระยะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีการปรับปรุงสถานที่ รวมไปถึงจุดต่างๆ ที่อาจเกิดการชำรุดทรุดโทรม หรือพื้นที่บางจุดที่ไม่สวยงาม และในเรื่องของการทำความสะอาด เพื่อให้พร้อมหลังมีการเปิดให้บริการได้ตามปกติอีกครั้ง

ร่วมแสดงความคิดเห็น