ระดมกำลังค้นหาหนุ่มเวียงแก่น ชวนเพื่อนขึ้นดอยผาตั้ง หาสมุนไพรกินป้องกันโรคโควิด ก่อนพลัดหลงหายตัวนาน 4 วัน

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 64 นายอุดม อยู่อินไกร นอภ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 64 ได้รับรายงานจากผู้ใหญ่บ้านผาตั้ง หมู่ที่ 14 ต.ปอ อ.เวียงแก่น ว่าเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 64 มีชาวบ้านเข้าป่าไปเก็บสมุนไพรไว้กินป้องกันโรคโควิด ที่บนเขาใกล้จุดท่องเที่ยวจุดชมวิวทะเลหมอกเนิน 104 ดอยผาตั้ง ซึ่งเป็นสันเขาสูงแนวตะเข็บชายแดนไทย-สปป.ลาว แล้วเกิดผลัดหลงหายตัวไป จึงได้สั่งการให้ จนท.ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหารพราน สมาคมกู้ชีพกู้ภัยเจ้าหลวงเวียงแก่น และชาวบ้านนำกำลังออกติดตามค้นหา ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. 64 แต่ฝนตกหนักลงมาจึงต้องยกเลิกภารกิจ

 

โดยในช่วงสายของวันนี้ (22 ก.ค.64) ได้สั่งการให้ชุดดังกล่าวออกปฏิบัติการค้นหาอีกครั้ง จนกระทั่งเวลา 11.30 น.พบรองเท้าและเสื้อผ้าถูกถอดทิ้งไว้บริเวณรอยทางเดิน ห่างกันอีก 100 เมตร พบกางเกงถูกถอดทิ้งไว้ในกระเป๋าพบบัตร ปชช. หลักฐานที่พบเป็นของผู้สูญหายคือ นายศรชัย ใจชอบสกุลดี อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ที่ 14 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ซึ่งเพื่อนบ้านที่เดินทางไปด้วยกัน ยืนยันว่าใช่เสื้อผ้าชุดที่สวมใส่ในวันดังกล่าว หลังจากทีมค้นหาเดินหน้าต่อไปอีก 400 เมตร ซึ่งเป็นเชิงเขาสูงแต่เป็นเขตแดนของ สปป.ลาว และเป็นหุบเหวลึกลงไปด้านล่าง จึงได้ยุติการค้นหาเมื่อช่วงเวลา 15.00 น.ก่อนกลับมาวางแผนก่อนว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร

 

นายอำเภอเวียงแก่น กล่าวว่า จากการสอบถามนายแอ๋เพื่อนบ้านที่เดินทางไปด้วย เล่าให้ฟังว่า “ในวันดังกล่าวคือเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 64 นายศรชัยได้ชวนไปหาสมุนไพรในป่าใกล้หมู่บ้าน เพื่อนำมารับประทานป้องกันโรคโควิด ตนเห็นว่าเป็นเพื่อนบ้านจึงได้เดินทางไปด้วย ขณะแยกย้ายกันหาสมุนไพรได้สักระยะหนึ่ง ตนได้เรียกหานายศรชัยแต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้พยายามเดินหาจนใกล้ค่ำแต่ไม่พบ ตนจึงกลับบ้าน เพราะคิดว่านายศรชัยคงกลับบ้านเองได้ หลังกลับมาถึงบ้านจึงไปถามกับครอบครัวนายศรชัยว่ากลับมาหรือยัง ได้รับคำตอบว่ายัง แต่ก็ไม่เอะใจคาดว่าคงจะไปธุระต่อที่อื่น กระทั่งรออีก 1 วันไม่เห็นกลับมาจึงชวนคนในครอบครัวไปตามหาอีกที แต่ก็ไม่พบร่องรอย จึงได้แจ้งผู้นำหมู่บ้านให้ช่วยแจ้งทาง จนท.ช่วยกันตามหา

สำหรับนายศรชัยญาติแจ้งให้ทราบว่า “เคยมีประวัติในการเสพยาเสพติด ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปทำงานอยู่ที่ กทม.ได้หลายปี หลังโรคโควิดระบาดจึงเดินทางกลับมาบ้านเกิด คาดว่าเกิดการพลัดหลงเส้นทางเกิดจากที่ไม่ชำนาญพื้นที่ป่า หรืออาจจะเกิดอาการหลอน เมื่อตกอยู่ในสภาพติดป่าช่วงกลางคืนแล้วพลัดตกเหวเสียชีวิตหรืออาจโดนทำร้าย จะได้สอบสวนต่อไป วันนี้ ได้ให้ทางปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอเวียงแก่นประสานแจ้งให้ทางการ สปป.ลาวได้ทราบ เพื่อขออนุญาติเข้าพื้นที่เท่าที่จะเดินทางเข้าไปได้ หรือหากทางการ สปป.ลาวพบเห็นทราบเบาะแส ก็ให้ติดต่อให้ทราบเพื่อขอรับตัวกลับ หากทางฝ่าย สปป.ลาวไม่ขัดขัองในการค้นหาข้ามแดน ในวันที่ 23 ก.ค. 64 ก็จะปฏิบัติการค้นหาใกล้จุดที่พบหลักฐานอีกครั้ง” นายอำเภอเวียงแก่นกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น