เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อหารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน จับตาการเยียวยาลูกจ้าง นายจ้าง ผู้ประกันตน และอาชีพอิสระ เพิ่มเติมในพื้นที่ที่ประกาศล็อกดาวน์ 13 จังหวัด
ทั้งนี้ ที่ประชุม จะรับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจ จากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย จากทีมปฎิบัติเชิงรุกทาบทามทั้งบริษัทเอกชนและต่างประเทศ รวมถึงรับทราบรายงานจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่รายงานผลความคืบหน้า การเปิดเมืองภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่เริ่มดำเนินการไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค. สมุยพลัสโมเดล ที่เริ่มดำเนินการไปเมื่อ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยจะมี จังหวัดอื่นๆ คือ เชียงใหม่ ที่ อ.เมือง อ.แม่ริม อ.แม่แตง และ อ.ดอยเต่า จ.ชลบุรี อ.พัทยา บางละมุง และ สัตหีบ / จ.บุรีรัมย์ อ.เมืองสนามช้างอารีน่า กทม. ชะอำ จ.เพชรบุรี หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งตามแผนจะ เปิดวันที่ 15 ต.ค.นี้ ซึ่งจะต้องจับตาว่าที่ประชุม จะยังคงให้เดินหน้าเปิดตามแผน เปิดประเทศ 120 วันหรือไม่ หรือต้องเพิ่มมาตรการที่เข้มขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวในที่ประชุม ศบศ.ตอนหนึ่งว่า “ท่านจะต้องช่วยผมคิดว่าทำอย่างไร เราจะลดคนติดเชื้อที่อยู่ที่บ้าน แล้วคอยรถไปรับ หรือไม่ก็คอยอยู่ตามถนนหนทางจะต้องไม่เห็นภาพนี้อีก ท่านจะต้องไปคิดมาเป็นความรับผิดชอบของทุกหน่วยงานนะครับ ไม่ใช่กระทรวงสาธารณสุขอย่างเดียว หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องหาวิธีการให้ได้ ว่าทำยังไงคนเหล่านี้จะมาสู่โรงพยาบาลสนาม”
ภาพ : voicetv
ร่วมแสดงความคิดเห็น