ลำพูนพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด–19 เพิ่ม 3 ราย รับผู้ป่วยมาจากต่างจังหวัด 13 ราย ส่วนใหญ่พบว่าติดเชื้อจากคนใกล้ชิด

 

เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2564 ที่ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดลำพูน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) จังหวัดลำพูน นำโดย นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน , แพทย์หญิง ภาวิณี เอี่ยมจันทน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำพูน พร้อมด้วย นายแพทย์สุผล ตติยนันทพร สาธารณสุขจังหวัดลำพูน ร่วมแถลงสถานการณ์ โควิด-19 ในพื้นที่ จ.ลำพูน โดย พบผู้ติดเชื้อ เพิ่ม 3 ราย และรับผู้ป่วยกลับมารักษาจากต่างจังหวัดอีก 13 ราย( ตามนโยบายรับคนลำพูนกลับบ้าน ) โดยสถิติตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน – 24 กรกฎาคม 2564 มีผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งสิ้น 457 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมยังคงอยู่ที่ 6 ราย อยู่ระหว่างการรักษาตัวทั้งหมด 124 รักษาหายแล้ว 327 ราย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า จังหวัดลำพูน ยังเน้นย้ำ มาตรการควบคุมการเดินทางข้ามเขตจังหวัด ให้ผู้ที่เดินทางมาจาก 15 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปทุมธานี จังหวัดปัตตานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลา จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดตาก ( เฉพาะอำเภอแม่สอด ) ให้รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ด่านหน้า อาทิ กำนัน , ผู้ใหญ่บ้าน , ประธานชุมชน , อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน( อสม.) ในพื้นที่โดยแจ้งก่อนล่วงหน้า 1 วัน จะมีการเปิดจุดนัดพบหรือจุดคักกรองของหมู่บ้าน ชุมชน นั้น ๆ โดยมีเจ้าหน้าที่ เข้าไปประเมินสถานที่พักอาศัยของผู้เดินทางมาว่ามีความพร้อมในการกักตัว 14 วัน จะมีเจ้าหน้าที่คอยดำเนินการปฏิบัติตามมาตรการและขึ้นตอนในการกักตัวอย่างเคร่งครัด

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำพูน กล่าวว่า โรงพยาบาลลำพูนจะเร่งนำวัคซีนฯที่มีอยู่ทยอยฉีดให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยจะมีการเลื่อนนัดการฉีดวัคซีน จากเดิมที่นัดฉีดวันที่ 3 – 4 สิงหาคม ในกลุ่มประชาชนที่มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีน้ำหนัก 90 กิโลกรัมขึ้นไป จะได้รับการแจ้งนัดให้สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีน ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ โดยจะมีข้อความจากทางโรงพยาบาลแจ้งข้อมูลการเลื่อนนัดการฉีดวัคซีน หรือจะมีการแจ้งผ่านทาง เจ้าหน้าที่ อสม. และ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล

ด้านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน กล่าวว่า จากการสอบสวนโรคและห้วงเวลาการเดินทางของผู้ป่วยแต่ละราย พบว่า เป็นการติดเชื้อกันเองในครอบครัว ผ่านการรับประทานอาหารร่วมกัน ในสถานที่ทำงาน หรือใช้ภาชนะใส่อาหาร แก้วน้ำแก้วเดียวกัน ซึ่งไม่ถูกสุขลักษณะ หลังจากนี้ทุกครอบครัวจะต้องสำรวจตนเองว่าได้ไปในพื้นที่เสี่ยง หรือไปยังพื้นที่ ที่มีความแออัดมากน้อยเพียงใด เพื่อจะได้สำรวจความเสี่ยงของตน และเว้นระยะห่างจากคนในครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวที่มี เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ

ในส่วนของทางนโยบายรับคนลำพูนกลับบ้าน ในระยะนี้สามารถโทรติดต่อมาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 062-0437444 หรือ 062-0197187 เวลา 08:30-16:30 นาฬิกา ในวันและเวลาราชการ หากเป็นเวลานอกเหนือจากเวลาทำการ สามารถลงทะเบียนข้อมูลได้ที่ เว็บไซด์ http://safelamphun.mth.go.th/ และผู้ที่ต้องการลงทะเบียนฉีดวัคซีนสามารถกรอกข้อมูลได้ทางเว็บไซด์ http://click-poom-lamphun.mth.go.th:5100/

ร่วมแสดงความคิดเห็น