(มีคลิป) ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. ตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวน ถูกบุกรุกกว่า 6 ไร่ อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ และยังพบกัญชาสดกว่า 100 ต้น ปลูกแซมในสวนข้าวโพด

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2564 เวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.4 บก.ปทส.)
โดยการอำนวยการสั่งการของ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก. 4 บก.ปทส. นำโดย ด.ต.คมชาญ เหรียญทอง ผบ.หมู่ กก.4 บก.ปทส. หัวหน้าชุดฯ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.ที่ 33 เจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปทส.ภ.5 และพ.ต.ท.ภาวิน ขาวหล้า สว.สส.สภ.แม่กา ได้ร่วมกันเข้าตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ต้นพืชกัญชาสด) จำนวน 100 ต้น น้ำหนักปริมาณประมาณ 5.00 กิโลกรัม พบปลูกอยู่ในแปลงที่ดินพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่หาดและป่าแม่ก้อ หมู่ที่ 5 บ้านโปงทุ่ง ต.โปงทุ่ง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ พร้อมทำการตรวจยึดพื้นที่ป่า ถูกบุกรุก เนื้อที่ จำนวน 6 ไร่ 3 งาน 84 ตารางวา คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 474,744 บาท
โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ได้บูรณาการร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมาย ตรวจสอบพื้นที่แปลงป่าถูกบุกรุกบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่หาดและป่าแม่ก้อ ท้องที่หมู่ที่ 5 ต.โป่งทุ่ง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ พบพื้นที่ป่าถูกบุกรุกจำนวนมากหลายแปลง โดยร่องรอยการนำรถไถเข้ามาแผ้วถางป่า จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ สั่งการให้เฝ้าติดตามจับกุมผู้ที่กระทำความผิดกฎหมาย เมื่อตรวจสอบไม่พบใครอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว แต่มีการปลูกถั่วลิสงคลุมดินจำนวนหนึ่ง และสร้างกระท่อมเพิงพักชั่วคราว จำนวน 1 หลัง ในกระท่อมพบจอบด้ามไม้ จำนวน 2 ด้ามและมีดพร้า จำนวน 1 เล่ม และยังพบต้นไม้ใหญ่ยืนต้นตาย มีร่องรอยกานไม้ด้วยมีดพร้า ขวาน และเลื่อยโซ่ยนต์ นอกนั้นยังมีการปลูกต้นข้าวโพดพืชไร่อยู่เต็มพื้นที่ รวมทั้งมีต้นกัญชาปลูกขึ้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วแปลงปลูกเป็นหย่อมๆ โดยมีร่องรอยการเข้ามาบำรุงรักษา โดยการพรวนดิน ดายหญ้า ฉีดพ่นยาฆ่าหญ้า
เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องมือตรวจวัดหาค่าพิกัดทางภูมิศาสตร์โดยใช้สัญญาณผ่านดาวเทียม ใช้โปรแกรมคำนวณพื้นที่จากค่าพิกัด GPS โดยกรมป่าไม้ คำนวณพื้นที่ป่าถูกบุกรุก แผ้วถาง ยึดถือ ครอบครอง มีพื้นที่ จำนวน 6 ไร่ 3 งาน 84 ตารางวา คิดค่าเสียหาย เป็นเงิน 474,744 บาท จึงได้ทำการตรวจยึดพื้นที่ทั้งหมด พร้อมของกลางที่ตรวจพบ นำส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 , พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น