เชียงใหม่ พบเพิ่มอีก 2 คลัสเตอร์ พร้อมเฝ้าระวังการติดเชื้อในหย่อมบ้านหนองเต่า เชียงดาว

สถานการณ์โรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ พบเพิ่มอีก 2 คลัสเตอร์ “วงสังสรรค์” และ “ศูนย์อาหารพนักงาน เซ็นทรัลเฟสติวัล” พร้อมเฝ้าระวังการติดเชื้อในหย่อมบ้านหนองเต่า หมู่ 15 ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว หวั่นยกระดับเป็นคลัสเตอร์ ย้ำกลุ่มเสี่ยงอย่าปกปิดข้อมูล เพราะจะทำให้การควบคุมโรคเป็นไปได้ช้า และไม่ตรงจุด

วันนี้ (12 ก.ย. 64) ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ประจำวัน ว่า ในขณะนี้ได้พบการติดเชื้อจากการสัมผัสในชุมชนเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งมาจากการกักตัวไม่ถูกต้องประกอบกับการระบาดในชุมชนที่ยังหาสาเหตุของการติดเชื้อไม่ได้

ด้านการตรวจผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัด ที่สนามบินเชียงใหม่ 53 ราย สถานีรถไฟ 54 ราย สถานีขนส่งอาเขต 72 ราย รถยนต์ส่วนตัวที่ด่านดอนจั่น 2 ราย รถบรรทุกที่ด่านสารภี 57 ราย ด่านดอยเต่าตรวจ 10 ราย และด่านอำเภอฮอด ตรวจ 31 ราย ทั้งหมดไม่พบเชื้อ นอกจากนี้ ได้มีการลงพื้นที่ตรวจเชิงรุก ครั้งที่ 2 ในกลุ่มเสี่ยงสูง ที่หย่อมบ้านปิพอ ตำบลแม่ตื่น อำเภออมก๋อยจำนวน 6 ราย พบผู้มีผลบวก 1 ราย และการตรวจที่บ้านหนองเต่า ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว 100 ราย พบผู้มีผลบวก 21 ราย

สำหรับผู้ติดเชื้อ 62 รายใหม่ ในวันนี้ เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างจังหวัด 5 ราย มาจากกรุงเทพมหานคร 3 ราย เพชรบุรี 1 ราย และลำพูน 1 ราย ส่วนอีก 57 ราย เป็นผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด โดยเป็นผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า 1 ราย อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 2 ราย และมาจากคลัสเตอร์ต่าง ๆ ประกอบด้วย คลัสเตอร์บริษัท Chiangmai Frozen Food พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย โดย 4 ราย เป็นพนักงานแผนกคัดและบรรจุผลิตภัณฑ์ ตรวจพบครั้งที่ 2 อยู่ในระบบ Bubble and Seal จึงไม่มีผู้สัมผัสเพิ่ม และอีก 1 ราย เป็นลูกของร้านขายหมูตลาดแม่โจ้ จากการสอบสวนพบว่าผู้เป็นแม่ได้สัมผัสกับแม่ค้าที่ขายของในโรงอาหารของบริษัท Chiangmai Frozen Food เมื่อมีอาการป่วย จึงได้ตรวจหาเชื้อแบบ ATK พบผล Positive ขณะนี้รอผลตรวจยืนยันอีกครั้ง และอยู่ระหว่างคัดแยกกลุ่มเสี่ยงสูง-เสี่ยงต่ำ รวมผู้ติดเชื้อสะสม 47 ราย, กลุ่มเพื่อนพนักงาน PR 3 ราย, การติดเชื้อที่ร้านลาบริมทาง ใกล้วัดมงคลเศรษฐี แม่โจ้ ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 7 ราย ทั้งหมดเป็นพนักงานในร้าน และคนในครอบครัว เบื้องต้นจากข้อมูลการสอบสวนโรค พบว่ามีพนักงานของบริษัท Chiangmai Frozen Food คือ CM7316 ได้ไปทำงาน Part-time ในร้านลาบ ด้านทีมควบคุมโรคอำเภอสันทราย จึงได้เร่งค้นหากลุ่มเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ เพื่อวางแผนตรวจเชิงรุกต่อไป

คลัสเตอร์หย่อมบ้านปิพอ หมู่ที่ 6 ตำบลแม่ตื่น อำเภออมก๋อย พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2 ราย เป็นกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเดิม ตรวจครั้งที่ 2 ระหว่างกักตัว รวมผู้ติดเชื้อสะสม 41 ราย, การระบาดในบริษัทบีไบรเทอร์ โซลาร์เซลล์ ตำบลท่าศาลา พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย เป็นผู้สัมผัสในครอบครัวของผู้ติดเชื้อราย CM7270 รวมผู้ติดเชื้อสะสม 10 ราย และยังคงเป็นการติดเชื้อในกลุ่มครอบครัว

คลัสเตอร์ใหม่ กลุ่มเพื่อนร่วมวงสังสรรค์ ตำบลสันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด และ อำเภอเมืองเชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 10 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 16 ราย โดยผู้ป่วยยืนยันที่ได้รับการรายงานรายแรก (Index case) ของคลัสเตอร์นี้ เป็นพนักงานขับรถส่งอาหารของฟู้ดแพนด้า ได้มีการร่วมวงสังสรรค์กัน จนเกิดการแพร่กระจายของเชื้อไปสู่ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน รวมถึงพนักงานร้านเมายำคาเฟ่ ซึ่งขณะนี้พนักงานทั้งหมดได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อแล้ว และอยู่ระหว่างการรอผล จึงขอประกาศให้ผู้ที่เข้าไปใช้บริการร้านเมายำ คาเฟ่ ย่านสันติธรรม ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง ระหว่างวันที่ 6-11 กันยายน 2564 สังเกตอาการตนเอง หากพบอาการผิดปกติให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่ง และแม้ว่าผลจะเป็นลบก็ต้องกักตัว 14 วัน

คลัสเตอร์ใหม่ ศูนย์อาหารศูนย์การค้าค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล และครอบครัว พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 6 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 16 ราย โดยจากการสอบสวนโรค พบว่าผู้ป่วยรายแรก มีอาการตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 คือ CM7106 เป็น รปภ. และมีประวัติไปรับประทานอาหารที่ศูนย์อาหารของพนักงาน ทำให้มีการติดเชื้อไปสู่พ่อค้าผลไม้สด และแม่ค้าขนมจีน จนไปสู่ครอบครัวของพ่อค้าผลไม้สด และยังกระจายไปกลุ่มแม่บ้าน PCR ที่ทำงานโซนชั้น 2 ของห้าง ซึ่งคาดว่าจะมีการติดเชื้อมาจากการสัมผัสกันที่ศูนย์อาหารเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ยังพบการติดเชื้อกลุ่มใหม่ ที่พร้อมจะยกระดับเป็นคลัสเตอร์ใหม่ได้ คือ การติดเชื้อในหย่อมบ้านหนองเต่า หมู่ 15 ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว ที่วันนี้พบผู้ติดเชื้อมากถึง 22 ราย จากการตรวจคัดกรอง 100 ราย โดยทีมควบคุมโรคอำเภอเชียงดาว ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรค และคัดกรองเพิ่มอีกกว่า 300 คน ครอบคลุมอีก 2 หย่อมบ้าน คือ ห้วยลึก และห้วยจะค่าน ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นยังไม่ทราบว่าติดเชื้อมาจากแหล่งโรคใด และไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์หมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งข้าวพวง อำเภอเชียงดาว แต่ลักษณะการติดเชื้อคล้ายกัน คือ ติดเชื้อในกลุ่มผู้ปกครอง และนักเรียน ที่มารับเงินคืนค่าเล่าเรียนที่โรงเรียน หากมีความชัดเจนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม จากการระบาดของโรคโควิด-19 วันนี้ ล้วนมาจากกลุ่มเสี่ยงที่ไม่คิดว่าตนเองมีความเสี่ยง จึงไม่เคร่งครัดในการกักตัว ประกอบกับผู้ตรวจพบเชื้อช่วงหลังมานี้ส่วนใหญ่ไม่มีอาการเลยหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย จึงมีการแพร่กระจายเชื้อลงสู่ผู้สัมผัสในครอบครัว ที่ทำงาน และชุมชนมากขึ้น จึงขอเน้นย้ำบุคคลที่เสี่ยง ต้องแยกกักตัวออกจากคนในครอบครัวเป็นเวลา 14 วัน อย่างเคร่งครัด และต้องไม่ปกปิดข้อมูล ไทม์ไลน์ ต่อทีมสอบสวนโรค เพราะจะส่งผลให้การควบคุมโรคเป็นไปได้ช้า และควบคุมไม่ตรงจุด


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ 12 กันยายน 2564

ร่วมแสดงความคิดเห็น