นายกตู่ – วธ.ชื่นชม “ลิซ่าและผู้ออกแบบ” นำทุนทางวัฒนธรรมต่อยอดสร้างสรรค์ผ่านการออกแบบแฟชั่น ปลื้มนำวัฒนธรรมไทยสู่ระดับโลก

จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมของเครื่องประดับศีรษะหรือศิราภรณ์ที่ลลิษา มโนบาล หรือลิซ่า นักร้องสายเลือดไทยและหนึ่งในสมาชิกวง BLACKPINK ประเทศเกาหลีใต้ที่มีชื่อเสียงระดับโลกได้ใส่ในการแสดง MV เพลง “LALISA” นั้น

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2564 นายประสพ เรียงเงิน รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ขอแสดงความชื่นชมลิซ่าและผู้ออกแบบชาวไทยที่เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับศีรษะที่ลิซ่าใส่แสดงใน MV นับเป็นตัวอย่างที่ดีในการนำทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอดด้วยความคิดสร้างสรรค์ในด้านการออกแบบแฟชั่นไทย ทำให้ศิลปวัฒนธรรมไทยและงานออกแบบแฟชั่นไทยเป็นที่รู้จักและได้รับการเผยแพร่สู่ระดับโลก ที่ผ่านมา วธ.ได้ดำเนินการส่งเสริมและนำทุนวัฒนธรรมมาต่อยอดในรูปแบบต่างๆ และได้ขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ด้วยการนำคุณค่าของวัฒนธรรมมาต่อยอดสร้างสรรค์สินค้าและบริการ (Creative Culture) เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการทางวัฒนธรรมให้แก่ชุมชนและประเทศชาติอย่างยั่งยืน

โดยเฉพาะอุตสาหกรรมวัฒนธรรมที่มีศักยภาพของไทยหรือ 5F ได้แก่ อาหาร (Food) ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) การออกแบบแฟชั่นไทย (Fashion) ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย (Fighting) และเทศกาลประเพณีไทย (Festival) ดังนั้นการนำทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอดโดยการนำความคิดสร้างสรรค์ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะให้คนที่ชม mv ดังกล่าวได้ชมความงดงามของวัฒนธรรมไทยในรูปแบบร่วมสมัย ที่ผู้ออกแบบและลิซ่า ได้นำเสนอออกมาให้เข้ากับยุคสมัยและเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่

ด้าน ดร.สุรัตน์ จงดา รักษาการผู้ช่วยอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และอาจารย์สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กล่าวว่า เครื่องประดับศีรษะหรือศิราภรณ์ที่ ลลิษา หรือลิซ่า ใส่แสดงเรียกว่า “รัดเกล้ายอด” เป็นศิราภรณ์ประกอบการแสดงไทยช่างฝีมือไดัรังสรรค์ศิราภรณ์หลายรูปแบบตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ตามความเหมาะสม ศิราภรณ์ประดับ ที่เป็นงานศิลปกรรมสร้างสรรค์ หรืองานประยุกต์ศิลป์ที่ได้แรงบันดาลใจจากงานช่างฝีมือโบราณ เป็นทุนทางวัฒนธรรมที่นำไปต่อยอดไปสู่ระดับสากล ซึ่งเป็นศิราภรณ์ประกอบการแสดงที่สร้างสรรค์มาตั้งแต่สมัยอยุธยา ในปัจจุบันมีการสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ๆ มาใช้ในการแสดงที่หลากหลายซึ่งถือเป็นงานช่างฝีมือที่สร้างงาน สร้างรายได้จากการทำเครื่องประดับประกอบการแสดง

ทั้งนี้ ความแตกต่างระหว่างชฎา และรัดเกล้ายอด ในการแสดงนาฏศิลป์นั้น ชฎาจะใส่ละครตัวพระ ขนาดทรงสูง มีกรอบหน้า จรหู เป็นชิ้นเดียวกัน สวมใส่ครอบลงบนศีรษะ สำหรับรัดเกล้ายอด เป็นศิราภรณ์ เครื่องประดับสำหรับตัวนางจะสวมตั้งอยู่บนกลางศีรษะ และมีดอกไม้ไหวประดับ สำหรับเครื่องประดับศีรษะ ทั้งชฎา มงกุฎ และรัดเกล้า เป็นสัญลักษณ์ทางการแสดงที่ทำให้คนต่างชาตินึกความเป็นประเทศไทย เป็นเอกลักษณ์ที่มีความงดงาม ตระการตา ซึ่งแม้แต่คณะทูตชาวต่างชาติที่มาเยือนประเทศไทยในอดีต ก็ยังกล่าวถึง รวมทั้ง การแสดงละครเวที การแสดงบัลเล่ต์ในยุโรป และสหรัฐอเมริกาก็ยังใช้เครื่องประดับศีรษะในลักษณะเดียวกันนี้ ประกอบการแสดงอีกด้วย

ด้าน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม​ ชื่นชมและภูมิใจนักออกแบบไทยสามารถนำวิจิตรศิลป์ของไทยในแขนงต่างๆ มาสร้างสรรค์ร่วมกับอุตสาหกรรมบันเทิงสมัยใหม่ ตรงกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของรัฐบาล ซึ่งส่วนหนึ่งคือการผลักดัน “Soft Power” ไทย เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์

 รัฐบาลเร่งเดินหน้าส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยใน 15 สาขา คือ
1) งานฝีมือและหัตถกรรม 2) ดนตรี 3) ศิลปะการแสดง 4) ทัศนศิลป์ 5) ภาพยนตร์ 6) การแพร่ภาพและกระจายเสียง 7) การพิมพ์  ซอฟต์แวร์ 9) การโฆษณา 10) การออกแบบ 11) การให้บริการด้านสถาปัตยกรรม 12) แฟชั่น 13) อาหารไทย 14) การแพทย์แผนไทย 15) การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
ขณะเดียวกันก็ผลักดันวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ 5 F ได้แก่ 1. อาหาร (Food) 2.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) 3.ผ้าไทยและการออกแบบแฟชั่น (Fashion) 4.มวยไทย (Fighting) และ 5.การอนุรักษ์และขับเคลื่อน เทศกาล ประเพณีสู่ระดับโลก (Festival)
โมเดล BCG เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจด้วย “ปัญญา” “สร้างสรรค์” มั่นใจ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทยจะประสบความสำเร็จ เนื่องจากไทยมีจุดเด่นและความพร้อมด้านทุนวัฒนธรรมต่าง ๆ ทั้งศิลปหัตถกรรม ประเพณี สถานที่ท่องเที่ยว ชุมชนที่มี “อัตลักษณ์” ของตนเอง นำมาผนวกกับความคิดสร้างสรรค์และงานฝีมือของคนไทย ก่อให้เกิดมูลค่าเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี
 ล่าสุด จากกระแสความชื่นชม MV ของศิลปินลิซ่า ที่มีการสอดแทรกงานหัตถศิลป์ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของไทย มียอดผู้ชมกว่า 100 ล้านวิวแล้ว เชี่อว่าจะสร้างความมั่นใจให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงและออกแบบแฟชั่นไทย ในการนำทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอด เป็นสินค้า/บริการ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็น soft power และให้เป็นที่รู้จักและเผยแพร่ในระดับโลก ซึ่งขณะนี้ ไทยมีตลาดประเทศเพื่อนบ้านและในภูมิภาครองรับอยู่แล้ว

ร่วมแสดงความคิดเห็น