วันที่ 16 ก.ย. 64 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่นางดารารัตน์ เกิดผล นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ โพสต์เฟซบุ๊ค “ดารารัตน์ เกิดผล” ตามหาเจ้าของเงินที่ทยอยโอนเข้าสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงใหม่ โดยที่ไม่ระบุชื่อผู้ส่งและวัตถุประสงค์ สะสมมาตั้งแต่ปี 2556 จนถึง 31 สิงหาคม 2564 รวมยอดเงินกว่า 3,145,840.45 บาท พร้อมแจ้งถึงเพื่อนครูที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงใหม่ที่โอนเงินเข้ามาและไม่แจ้งรายละเอียด ติดต่อกลับสหกรณ์ฯ เพื่อรักษาผลประโยชน์ ซึ่งต่อมากรณีข่าวดังกล่าว สร้างความงุนงงสงสัยให้กับประชาชนทั่วไป ว่ายอดเงินดังกล่าวมาได้อย่างไรนั้น
ล่าสุดวันนี้ ทางด้าน นายไพบูลย์ พุทธวงค์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงใหม่ ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า สำหรับเงินดังกล่าวที่มีหลายคนเข้าใจว่าเป็นเงินปริศนานั้น แท้จริงตนขอชี้แจงว่าไม่ได้เป็นเงินปริศนาแต่อย่างใด แต่เป็นเงินที่อาจจะมีสมาชิกโอนเข้ามาในบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ที่มีการทำธุรกรรมการเงินตามปกติของสหกรณ์ ที่ส่วนใหญ่แล้วสมาชิกที่โอนมาก็จะแล้วแต่ประเภท เช่น การซื้อหุ้น ,เงินฝาก ,ชำระหนี้ หรือชำระดอกเบี้ย ที่ปกติจะมีจำนวนมากแทบทุกวัน แต่มีส่วนหนึ่งที่โอนมาแล้วไม่ได้มีการแจ้งระบุตัวผู้โอน หรือวัตถุประสงค์ จึงกลายเป็นเงินค้างบัญชีสหกรณ์ หรือเงินที่ต้องรอตรวจสอบ แต่หากมีการแจ้งระบุมาหลังจากโอนแล้ว ก็จะมีการปรับบัญชีเพื่อให้เกิดความถูกต้อง แต่ที่ไม่มาติดต่อก็พบว่ามีจำนวนมาก จึงไม่ทราบว่าเป็นเงินของผู้ใดที่โอนเข้ามาในบัญชีของสหกรณ์ เนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่รู้เพียงว่าโอนมาจากสาขาไหนเพียงเท่านั้น
ขณะเดียวกันเงินในลักษณะเช่นนี้ก็จะมีจำนวนไม่เท่ากัน เนื่องจากมีหลากหลายธนาคารที่ทางสหกรณ์ได้ไปเปิดเพื่อความสพดวกของสมาชิกในการใช้บริการ ทำให้มีเงินที่โอนเข้ามาในยอดที่ไม่เท่ากัน ทั้งยอดหลักร้อย หลักพัน แม้กระทั่ง 1 บาทก็ยังมี โดยยอดเงินก็ไม่แน่นอน เนื่องจากหากมีสมาชิกนำหลักฐานมาแสดง ก็ต้องมีการปรับลดยอดไปตามที่สมาชิกนำหลักฐานมาแสดง และปกติหากสมาชิกของสหกรณ์โอนเงินเข้ามาก็จะต้องนำหลักฐานมาแจ้งกับทางสหกรณ์ตามช่องทางต่างๆ แต่หากตรวจสอบดูแล้วยังไม่รู้ว่าเป็นเงินของผู้ใด ก็จะมีการนำเข้าคณะกรรมการทุกเดือนที่มีการประชุม และแจ้งไปทางหน่วยบริการซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 31 หน่วยทั่วจังหวัดเชียงใหม่ ที่สามารถติดต่อสมาชิกได้ อีกส่วนทางสหกรณ์ก็จะออกประกาศทางเว็บไซต์ของสหกรณ์ เพื่อให้สามาชิกมาดำเนินการนำหลักฐานมาติดต่อจากนั้นก็จะมีการดำเนินการปรับบัญชีให้ถูกต้องต่อไป
ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ที่ผ่านมาทางสหกรณ์ ก็ได้มีการประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง รวมไปถึงประชาสัมพันธ์ของเขต ที่มีครูในเขตพื้นที่เพื่อให้รับทราบว่าเป็นเงินของใครถ้าหากได้โอนเข้ามา แล้วนำหลักฐานมาให้สหกรณ์ก็จะได้ปรับบัญชีให้ถูกต้อง แต่ปัจจุบันนี้ก็ยังมียอดที่โอนเข้ามาแล้วตรวจสอบไม่ได้อยู่อีกหลายราย แต่หากมีระยะเวลาเกิน 10 ปี แล้วยังไม่มีผู้มาติดต่อก็จะต้องนำเข้าที่ประชุมใหญ่ แจ้งยอดจำนวนทั้งหมดเพื่อขออนุมัตินำเข้ากองทุนสำรองของสหกรณ์ และหากที่ประชุมใหญ่อนุมัติแล้วจึงสามารถโอนยอดเงินที่เกิน 10 ปี ดังกล่าวเข้าไปที่กองทุนสำรองสหกรณ์ เช่นปีที่แล้วที่มีการนำเข้ากองทุนสำรอง ซึ่งเป็นเงินที่มีมาตั้งแต่ปี 2553 แต่ก็เป็นเงินจำนวนไม่มาก เนื่องจากมีการตรวจสอบเคลียร์ยอดบางส่วน และเป็นเงินค้างยอดเก่า
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเงินตามที่มีกรณีข่าวออกมานั้น มีการระบุจำนวนเงิน ณ วันที่ 31 ส.ค. 64 จำนวน 2,333,649.60 บาท แต่ถายหลังการตรวจสอบ และมีสมาชิกนำหลักฐานมาแสดงแล้วนั้น ล่าสุดมีการปรับลดแล้วเหลืองเพียง 887,646.79 บาท ซึ่งเป็นยอด ณ วันนี้ ซึ่งเป็นยอดที่มีการปรับขึ้นลงแล้วแต่ที่สมาชิกจะโอนเข้ามา และไม่ได้เป็นเงินปริศนาที่บางคนอาจเข้าใจผิดว่าโอนเข้ามาเป็นเงินเพียงก้อนเดียวแต่อย่างใด สำหรับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงใหม่มีสมาชิกเป็นบุคลากรทางการศึกษาเป็นสมาชิกกว่า 35,000 คน มีเงินหมุนเวียนกว่า 2.45 หมื่นล้านบาท
ร่วมแสดงความคิดเห็น