ปภ.แนะเรียนรู้เทคนิคขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วม…ลดเสี่ยง

อันตราย-ป้องกันรถเสียหาย การขับรถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง มีความเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายมากกว่าปกติ รวมถึงอาจทำให้เครื่องยนต์ชำรุดเสียหาย เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะเทคนิคการขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วมขังอย่างปลอดภัย ดังนี้ เมื่อขับรถผ่านเส้นทางท่วม ให้ปฏิบัติ ดังนี้

  • ประเมินสภาพเส้นทาง โดยสังเกตจากสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว อาทิ เสาไฟฟ้า ต้นไม้ ถังขยะ เพื่อคาดการณ์ความสูงของระดับน้ำและความแรงของกระแสน้ำ
  • ปิดเครื่องปรับอากาศ เพื่อป้องกันพัดลมแอร์พัดเข้าไปในห้องเครื่องทำให้เครื่องยนต์ดับ รวมทั้งพัดเศษวัสดุเข้าไปติดในมอเตอร์พัดลมหรือใบพัด ทำให้ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ขัดข้อง
  • ลดความเร็ว เพื่อป้องกันคลื่นน้ำปะทะกับรถที่สวนทางมา ทำให้น้ำกระเด็นบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางหรือพัดเข้าห้องเครื่อง ทำให้เครื่องยนต์เสียหาย
  • ใช้ความเร็วต่ำ โดยรักษาความเร็วให้อยู่ในระดับเดียวกันอย่างสม่ำเสมอ
  • รักษารอบเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,500-2,000 รอบต่อนาที หากรอบเครื่องต่ำ อาจทำให้เครื่องยนต์ดับ
    แต่หากรอบเครื่องยนต์สูงเกินไป จะทำให้น้ำพัดเข้าเครื่องยนต์
  • ใช้เกียร์ต่ำ โดยรถเกียร์ธรรมดาให้ใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 รถเกียร์อัตโนมัติใช้เกียร์ L
  • ไม่เร่งเครื่องยนต์ เพราะจะทำให้ใบพัดระบายความร้อนทำงานหนัก ส่งผลให้น้ำท่วมห้องเครื่อง
  • ลดการใช้เบรก ให้ใช้แรงเฉื่อยของเครื่องยนต์ในการหยุดหรือชะลอความเร็วรถ
  • เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุกรณีรถคันหน้าขัดข้องหรือหยุดกะทันหัน

ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ควรระมัดระวังการขับขี่บนเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย เพราะอาจมีหลุมลึกบนถนน โดยให้จอดรถประเมินสถานการณ์ และสังเกตรถคันอื่นก่อนขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าว จะช่วยป้องกันอันตราย ที่อาจเกิดขึ้นได้
เทคนิคการขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วมในระดับต่างๆ ให้ปฏิบัติ ดังนี้

ระดับน้ำท่วมผิวถนนประมาณ 10 ซม.

  • ขับรถให้ช้าที่สุด
  • รักษาความเร็วรถอย่างสม่ำเสมอ
  • ไม่ขับรถเร็วและไม่เร่งเครื่องยนต์

ระดับน้ำท่วมท้องรถประมาณ 20 ซม.

  • ขับรถให้ช้าที่สุด
  • ขับรถไปตามแนวการขับขี่รถคันหน้า
  • ขับรถบนกึ่งกลางถนนหรือบนจุดที่ระดับน้ำต่ำที่สุด
  • ระวังคลื่นน้ำจากรถคันอื่นที่ขับสวนทางมา

ระดับน้ำท่วมถึงไฟหน้ารถประมาณ 40 ซม.

  • หยุดรถเพิ่มประเมินสถานการณ์
  • เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นหากระดับน้ำลึกและไหลเชี่ยวกราก
  • ไม่ฝืนขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าว โดยเด็ดขาด

หลังขับรถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วม ให้ปฏิบัติ ดังนี้

  • ตรวจสอบระบบเบรกและคลัตช์
    * รถเกียร์อัตโนมัติ ให้เหยียบย้ำเบรกถี่ๆ สลับกับเหยียบคันเร่งช้าๆ เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรก
    * รถเกียร์ธรรมดา ให้เหยียบย้ำคลัตช์ เพื่อป้องกันคลัตช์ลื่น
  • ขับรถต่ออีกประมาณ 20 นาที เพื่อไล่น้ำหรือความชื้นที่ค้างในเครื่องยนต์ และระบบต่างของรถ
  • ไม่ดับเครื่องยนต์ในทันที ให้สตาร์ทเครื่องยนต์ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาท พร้อมเปิดเครื่องปรับอากาศ จะช่วยให้เครื่องยนต์แห้งเร็วขึ้น

ทั้งนี้ การขับรถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมผู้ขับขี่ ควรประเมินสภาพเส้นทาง หากไม่ปลอดภัย ควรเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่น ไม่ควรฝืนขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าว เพราะนอกจากทำให้รถเสียหายแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น