ปธ.อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่ เผยความพร้อมเปิดจังหวัดรับนักท่องเที่ยว 1 ต.ค.นี้ เน้นย้ำต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด

วันที่ 20 ก.ย.64 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ รัฐบาลเตรียมเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่ต้องกักตัว ขยายผลจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และในวันที่ 1 ต.ค.64 นี้ โดยมี 5 จังหวัดนำร่อง คือ กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, เชียงใหม่, เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศให้เข้ามาเที่ยวได้โดยไม่ต้องกักตัว ขยายผลจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่จะใช้ชื่อโครงการว่าชาร์มมิ่ง เชียงใหม่ โดยมีโมเดลในลักษณะ 7+7 คือรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่ในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ครบ 7 วัน แล้ว จึงสามารถเดินทางต่อมายังจังหวัดเชียงใหม่ได้ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับพื้นที่การท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น

ขณะที่ทางด้าน นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า รูปแบบชาร์มมิ่งเชียงใหม่ จะมีรูปแบบที่คล้ายๆ กับภูเก็ตแซนบ๊อก ผนวกกับรูปแบบของ Sealed route ที่สามารถเดินทางในรูปแบบอิสระได้และมีกระบวนการ Sealed r route ควบคู่กันไป โดยจะมีบริษัททัวร์เข้าไปดำเนินการพาเข้าไปในแต่ละพื้นที่ ในพื้นที่อิสระจะเรียกว่า Blue zone ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินท่องเที่ยวได้เองคล้ายคลึงเหมือนภูเก็ต ซึ่งก่อนเข้าไปจะมีการบริหารจัดการเรื่องการตรวจคัดกรองด้วย ส่วนในรูปแบบของ Sealed r route ก็จะมีบริษัททัวร์พาไป โดยมีการเชิญบริษัททัวร์ที่ได้รับมาตรฐานทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่เฉพาะในเชียงใหม่ ทุกบริษัทที่มี License ได้รับตามมาตรฐาน SHA และ SHA plus แล้ว ก็สามารถที่จะขายทัวร์มาเชียงใหม่ได้ และจะมีผู้จัดการทัวร์ที่คอยดูแล พานักท่องเที่ยวเที่ยวตามจุดที่กำหนดไว้ไม่สามารถออกนอกเส้นทางได้ หากฝ่าฝืนผู้จัดการทัวร์จะมีความผิด

ทั้งนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมในระดับพื้นที่ ที่จะเปิดนำร่องในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ในเบื้องต้น 13 ชุมชนในเมืองเก่า ภายในคูเมืองเชียงใหม่มีการพูดคุยกันแล้ว และเริ่มฉีดวัคซีนให้พี่น้องประชาชน ไปได้ประมาณ 50-60 % แต่ต้องการปูพื้นที่ให้ได้ 100% ให้เป็น Blue zone จริงๆ แล้วก็ยังจะเดินหน้าฉีดให้พื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับไข่แดงและไข่ขาว รวมถึงประชาชนที่ไม่ได้มีภูมิลำเนาใน Blue zone แต่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้ามา เช่นมาทำงาน ก็จะต้องมีการขึ้นทะเบียนไว้ แล้วฉีดวัคซีนให้ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ที่อำเภอแม่แตง ที่ตำบลกึ๊ดช้าง ที่มีปางช้างและแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่โด่งดังระดับโลก ขณะนี้มีการบริหารจุดคัดกรองตรวจโรคโควิด-19 หัว-ท้าย ในการเดินทางเข้าออกก็เชื่อว่าจะสามารถควบคุมได้ และได้เริ่มบริหารการจัดการฉีดวัคซีนในพื้นที่เช่นกันนะครับทุกพื้นที่ตอนนี้ก็ฉีดไปแล้วประมาณ 40 – 50 % แล้ว และทางรัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมนำเสนอแผนการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวแก่ ศบค. ในวันที่ 18 กันยายนนี้ ถ้ามีการเคาะผ่านในแผนการที่เสนอไปว่ารัดกุมดีพอ ก็จะมีการบริหารวัคซีนจำนวนหนึ่ง ที่มากพอที่จะระดมฉีดในพื้นที่ทั้งจังหวัด ให้เรียกว่ามีเปอร์เซ็นต์ของการฉีดวัคซีนสูงขึ้นมาได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ในพื้นที่

สำหรับวันที่ 1 ต.ค.64 ที่เตรียมจะเปิดการท่องเที่ยวนี้ จะมีพื้นที่นำร่องทั้งในรูปแบบธรรมชาติและชุมชน แล้วก็เป็นรายใหญ่ เช่น ในพื้นที่ของอำเภอเมืองเชื่อมต่ออำเภอหางดง แม่ริม และแม่แตง จะมีแหล่งท่องเที่ยวเช่น เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งขณะนี้พนักงานได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 300 คน นอกจากนี้ยังมีที่ที่อยู่ในแผนการฉีดวัคซีนในพื้นที่สำคัญ เช่น อุทยานหลวงราชพฤกษ์, สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ในพื้นที่อำเภอแม่ริม ตำบลแม่สา ตำบลแม่แรม ตำบลโป่งแยง ปางช้าง สวนเสือ และในพื้นที่ที่สามารถที่จะมีกิจกรรมเดินท่องเที่ยว เช่น สวนชา ล่องแก่งธรรมชาติในแก่งกื้ด ที่อำเภอแม่แตง ในพื้นที่เหล่านี้มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงช้าง การแสดงของช้าง เพราะฉะนั้นกิจกรรมทั้งหมดก็จะอยู่ในพื้นที่ที่เป็นเป้าหมาย

ส่วนในเฟสที่ 2 ก็จะมีการผนึกอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ และในพื้นที่ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง ที่มีความพร้อมเข้าไปด้วย ส่วนอำเภอดอยเต่า จะมีในส่วนของบ้านท่าเดื่อ ที่ชุมชนมีความพร้อม สามารถที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวในบริเวณทะเลสาบดอยเต่า หรือพื้นที่ที่เหมาะสมแก่การท่องเที่ยวได้ ในส่วนโซนอื่นๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้าไปเที่ยว แล้วสถานประกอบการมีความพร้อม ก็จะดูเป็นโซนๆ ไป ว่าโซนไหนที่มีความพร้อมในระดับชุมชนและเสนอแผนการฉีดวัคซีนมา ก็จะระดมฉีดวัคซีนให้ ให้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ในชุมชน หรือพื้นที่ที่มีความเหมาะสมนั้น เพราะฉะนั้นก็จะมี Blue zone เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกช่วงเวลา ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในเชียงใหม่ สามารถที่จะตอบโจทย์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม Wellnessสปา ท่องเที่ยวในเชิงโบราณสถาน Craft & Culture ในเชิงศิลปวัฒนธรรม และในเชิงผจญภัย Zip line ต่าง ทำให้รูปแบบการท่องเที่ยวจะไม่น่าเบื่อ อย่างที่ชุมชนบ้านแม่กำปองฉีดวัคซีนไปขณะนี้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 70 % แต่ถ้าต้องการเปิดการท่องเที่ยว แล้วพบว่าวัคซีนขาดเท่าไหร่ ถ้ามีวัคซีนเศรษฐกิจเข้ามาแล้วก็จะบริหารจัดการวัคซีนไปให้ ทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่เป็น Blue zone ที่สามารถให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศไปเที่ยวได้

ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่ให้เกียรติคนไทย และการท่องเที่ยวของคนไทยเป็นอันดับแรก เพราะฉะนั้นตลาดคนไทยคือตลาดหลัก หากใครที่ฉีดวัคซีนแล้วก็สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ได้เลย เพียงแต่ต้องกรอกแบบฟอร์ม ชม.3 และ ชม.4 ซึ่งมีให้ที่สนามบินหรือจุดคัดกรองต่างๆ scan แอพพลิเคชั่นเชียงใหม่ชนะ ก็สามารถเที่ยวได้อย่างมีความสุขในสถานที่พัก สถานประกอบการที่มีจัดไว้ในระบบที่เชียงใหม่เตรียมพร้อมดูแลรองรับไว้

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย สามารถเดินทางเข้าออกได้ จังหวัดเชียงใหม่ยินดีต้อนรับคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว ในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ก็มีการยกระดับมาตรฐาน DMHTT อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยมีการวัดอุณหภูมิร่างกาย เว้นระยะห่าง ล้างมือ บางสถานที่จะมีการเพิ่มกระบวนการที่อาจจะต้องมี ATK ทำการ Swab test ในสถานบันเทิงบ้าง ในกระบวนการถ้าเป็นคนต่างชาติ ในเบื้องต้นจะเปิดรับนักท่องเที่ยวในเฟสแรกจากภูเก็ต ที่อยู่ภูเก็ตมาก่อน 7 วัน เพราะฉะนั้นดัชนีความเสี่ยงที่ได้รับ ป็นตัวเลขจากทางราชการพบว่ามีความเสี่ยงต่ำมาก เท่าที่ผ่านมาทราบว่านักท่องเที่ยวที่ลงมาที่ภูเก็ตประมาณ 30,000คน พบผู้ติดเชื้อไม่เกิน 100 คน ถ้าจำตัวเลขไม่ผิดจะอยู่ที่ประมาณ 88 คน ซึ่งเป็นนักเดินทางที่เข้ามาภูเก็ตแล้วมีการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ที่ตรวจพบตั้งแต่ในช่วง 4-5 วันแรก ตั้งแต่การSwab test ครั้งแรกเป็นส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จึงถือว่ามีความเสี่ยงต่ำมาก ขณะนี้กำลังจะบริหารไฟลท์บินตรงจากภูเก็ตเข้าสู่เชียงใหม่ได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น