ข่าวปลอม!!!ผลิตภัณฑ์กระชายขาวพลัสดี สามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนเซลล์ไวรัสโควิด-19

 

วันที่ 20 ก.ย. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการโฆษณาทางสื่อสั่งคมออนไลน์ต่างๆ เรื่อง ผลิตภัณฑ์กระชายขาวพลัสดี สามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนเซลล์ไวรัสโควิด-19 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขพบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีผลิตภัณฑ์กระชายขาวพลัสดี โฆษณาสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ว่า สามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนเซลล์ไวรัสโควิด-19 ได้นั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขได้ตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวขออนุญาตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในชื่อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สารสกัดกระชายขาว พลัส ดี KRACHAY KHAW EXTRACT PLUS D DIETARY SUPPLEMENT PRODUCT เลข อย. 13-2-06463-5-0077 ซึ่งในการยื่นขออนุญาต ไม่มีการยื่นข้อมูลประสิทธิผลในการ เพิ่มภูมิคุ้มกัน ยับยั้งการเพิ่มจำนวนเซลล์ไวรัสโควิด-19 และลดการติดเชื้อ ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่มีผลในการบำบัด บรรเทา หรือรักษาโรคและต้องแสดงคำเตือนดังกล่าวบนฉลาก และหากผู้ป่วยหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมารับประทาน เพื่อหวังผลในการเพิ่มภูมิคุ้มกันยับยั้งการเพิ่มจำนวนเซลล์ไวรัสโควิด-19 และลดการติดเชื้อ อาจเสียเงินเปล่า เสียโอกาสในการรักษา และอาจเสียชีวิตได้ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางด้านสุขภาพ หรือหากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัย สามารถแจ้งได้ที่ www.fda.moph.go.th หรือโทรสายด่วน อย. 1556

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ในการยื่นขออนุญาตของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ไม่มีการยื่นข้อมูลประสิทธิผลในการ เพิ่มภูมิคุ้มกัน ยับยั้งการเพิ่มจำนวนเซลล์ไวรัสโควิด-19 และลดการติดเชื้อ ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น