ญาติหอบหลักฐานร้องสื่อ! ข้องใจหนุ่มวัย 39 ปี ฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรก หลังจากนั้น 7 วัน เสียชีวิต

เมื่อช่วงสายวันนี้ (21 ก.ย.64) รายงานข่าวแจ้งว่า ได้มีชาวปกาเกอะญอ ในพื้นที่ อ.แม่แจ่ม เชียงใหม่ เดินทางนำหลักฐานเข้ามาร้องเรียนกับทางผู้สื่อข่าว จากกรณีที่ทางญาติ เป็นชายหนุ่มวัย 39 ปี เสียชีวิตหลังการเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นซิโนแวคเข็มแรก ได้เพียง 7 วัน โดยทางญาติเชื่อว่าสาเหตุหลักของการเสียชีวิตนั้น เกิดจากการเข้ารับวัคซีน เนื่องจากที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตร่างกายแข็งแรง และไม่มีโรคประจำตัว พร้อมทั้งจะเดินทางเข้ายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจาก สปสช.เขต.1 เชียงใหม่ เยียวยาครอบครัว 4 แสนบาท

โดยทางด้าน น.ส.สุภาพันธ์ รติธนา อายุ 32 ปี หลานสาวของ นายเจตพล กระจ่างฉัตรวิไล อายุ 39 ปี ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง (ปกาเกอะญอ) อาชีพเกษตรกรในพื้นที่ หมู่ 2 ต.แม่นาจร อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ที่ทางญาติเชื่อว่าการเสียชีวิตมาจากการเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซิโนแวคเข็มแรก เล่าว่า น้าชายของตนได้เข้าไปรับการฉีดวัคซีน เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา และเสียชีวิตในวันที่ 16 ก.ย.64 หลังผ่านการฉีดเข็มแรกไปเพียง 7 วัน ต่อมาทางญาติได้นำร่างไปฝังในหมู่บ้าน ตามพิธีทางศาสนาคริสต์ เมื่อ 18 ก.ย.64 แต่ทางญาติและชาวบ้านยังคงรู้สึกติดใจ กับสาเหตุการเสียชีวิตของน้าในครั้งนี้ ตนจึงตัดสินใจนำหลักฐานเข้าร้องเรียน ขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นเสาหลักที่ต้องเลี้ยงดูครอบครัว อีกทั้งยังต้องดูแลลูกสาววัย 9 ขวบ ที่พิการทางสมอง

น.ส.สุภาพันธ์ บอกอีกว่า สาเหตุที่ทางผู้เสียชีวิตต้องตัดสินใจเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เนื่องจากต้องเดินทางพาลูกสาวไปเข้ารับการรักษาอาการป่วยทางสมองที่โรงพยาบาลเด็กแห่งหนึ่งภายในตัวเมือง ซึ่งมีกฎเกณฑ์ระบุว่าผู้ปกครองที่จะเข้าเยี่ยม ต้องได้รับวัคซีนมาแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม นายเจตพล จึงเกิดความกังวลในเรื่องนี้ เพราะตัวเองต้องพาลูกสาวมารักษาอยู่เป็นประจำทุกๆ 3 เดือน โดยก่อนหน้านี้ นายเจตพล ผู้เสียชีวิต ได้ลงทะเบียนขอรับวัคซีนไปแล้วแต่ยังไม่ถึงคิว แต่ในวันที่ 9 ก.ย.64 ที่ นายเจตพล ได้รับการฉีดวัคซีนนั้น เนื่องจากทางโรงพยาบาลแม่แจ่ม ได้จัดหน่วยฉีดวัคซีนเคลื่อนที่เข้ามาฉีดให้กับชาวบ้านในชุมชน ที่โรงเรียนบ้านแม่ซา ต.แม่นาจร อ.แม่แจ่ม ซึ่งวันนั้นมีทั้งชาวบ้านในหมู่บ้าน และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 300 คนเดินทางมารับวัคซีนตามนัด แต่ก็มีชาวบ้านบางรายที่ผิดนัดไม่มารับวัคซีนจำนวนหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่จึงประกาศให้ผู้ประสงค์รับวัคซีนที่เหลือตกค้าง ประมาณ 40 โดส ให้เข้ารับการฉีดในวันดังกล่าวโดยไม่ต้องรอคิว นายเจตพล จึงได้เข้ารับการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ โดยรับการฉีดเข็มแรกเป็นซิโนแวค จากนั้นแพทย์ได้ออกใบนัดเพื่อเข้ารับเข็มที่ 2 แอสตร้าเซนเนก้า ในวันที่ 7 ต.ค.64 อีกครั้ง

กระทั้งต่อมา หลังจากที่ นายเจตพล ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ช่วงเย็นได้กลับมาถึงบ้าน ซึ่งในวันแรกทางเจ้าตัวบอกว่ามีอาการปกติทั่วไป แต่ก็บ่นว่าง่วงซึมแต่นอนไม่หลับติดต่อกันหลายวัน จนกระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 16 ก.ย.64 ขณะที่ผู้เสียชีวิตกำลังนั่งตัดไม้อยู่หน้าบ้าน ต่อมาได้บอกกับภรรยาว่ามีอาการปวดศีรษะและท้ายทอยอย่างมาก จนต่อมาเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ทาง นายเจตพล ก็บอกว่ามีอาการปวดศีรษะจนทนไม่ไหว และขอไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นกลับมานั่งบริเวณที่นอน มีอาการน้ำตาไหลออกมาเพราะความเจ็บปวด พร้อมบอกว่าไม่ไหวแล้ว ก่อนจะหันไปบอกภรรยา ว่าฝากดูแลลูกด้วย จากนั้นได้หมดสติไป ทางญาติจึงติดต่อแพทย์จากอนามัยมาช่วยดูอาการ ก่อนที่จะส่งตัวเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลจอมทอง และขณะที่กำลังส่งตัวต่อเนื่องไปโรงพยาบาลสันป่าตอง นายเจตพล ได้เสียชีวิตระหว่างทาง ซึ่งหลังจาก นายเจตพล จากไป ทางหน่วยงานในพื้นที่ พยายามจะไม่ให้ชาวบ้านพูดถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านต่างก็เกรงกลัว และไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้ ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่ ยังมีความกังวลในการที่จะไปรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ตามนัดอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางญาติเชื่อว่าการเสียชีวิตของ นายเจตพล นั้นน่าจะมาจากการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แม้ว่าในใบผลการตรวจของแพทย์จะระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตนั้น จะมีสาเหตุมาจากโรคเส้นเลือดสมองแตก เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตเป็นคนร่างกายแข็งแรง และไม่มีโรคประจำตัวแต่อย่างใด อีกทั้งไม่ใช่คนดื่มเหล้า สูบบุหรี่ จึงเชื่อว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นนี้ น่าจะเป็นผลจากการรับวัคซีน โดยนอกจากจะเข้าขอความช่วยเหลือทางสื่อมวลชนแล้ว ทางญาติก็จะเดินทางไปยื่นเรื่องถึงสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 1 เชียงใหม่ เพื่อให้พิจารณาความช่วยเหลือกรณีเสียชีวิต ที่เชื่อได้ว่ามาจากการฉีดวัคซีนด้วย ซึ่งจะมีการช่วยเหลือสูงสุด จำนวน 4 แสนบาท ตามหลักเกณฑ์ต่อไปด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น