กล้องวงจรปิดภายในโรงพยาบาลนครพิงค์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ บันทึกภาพชายคนหนึ่ง สวมเสื้อแขนยาวลายสก๊อตสีเทา กางยีนส์ขายาวสีดำ สวมรองเท้าแตะหนังสีน้ำตาล สวมหมวกกันน๊อคสีดำ ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียนเชียงใหม่ ออกจากโรงพยาบาลไป เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.32 น. วันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา เป็นหลักฐานที่ ตำรวจ สภ.แม่ริมใช้ติดตามจับตัวคนร้าย หลัง น.ส.ภัทราวดี วงศ์ขันแก้ว อายุ 24 ได้เข้าแจ้งความว่าได้จอดรถจักรยานยนต์ไว้หลังป้อมยาม ภายในโรงพยาบาลนครพิงค์เพื่อไปรับยา เมื่อกลับออกมาพบว่ารถจักรยานยนต์ได้หายไปแล้ว
ตำรวจจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงพยาบาล และสอบปากคำพยานแวดล้อม กระทั่งเมื่อวานนี้เวลา 14.30 น. พบชายต้องสงสัยคนหนึ่ง ได้เดินมาป้วนเปี้ยนบริเวณที่จอดรถของโรงพยาบาลนครพิงค์ และมีรูปร่างหน้าตาประกอบกับตำรวจเห็นสวมกางเกงยีนส์สีดำ และรองเท้าหนังสีน้ำตาล เหมือนภาพจากกล้องวงจรปิด จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ทราบชื่อต่อมาคือ นายธวัชชัย บุญใส อายุ 58 ปี ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปค้นบ้านพักในตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหาของกลางเพิ่ม
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ได้เป็นขโมยรถจักรยานยนต์ของ น.ส.ภัทราวดี ผู้เสียหายไปจริง โดยก่อนหน้านี้ตนมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง หลังการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด จึงทำให้ไม่มีงานประกอบกับตนมีลูกวัย 6 เดือนต้องเลี้ยงดู จึงต้องออกตระเวนขโมยรถจักรยานยนต์ตามโรงพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลสันทราย และโรงพยาบาลนครพิงค์ ไปขายเพื่อนำเงินมาซื้อนมให้กับลูก และเป็นค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว ที่ผ่านมาตนจะขี่รถจักรยานยนต์วิบากจากบ้านพักในอำเภอสันทราย มาจอดไว้หน้าโรงพยาบาล หลังจากนั้นก็เดินตระเวนหารถจักรยานยนต์คันที่เสียบกุญแจคาไว้ ตนก็จะขี่ออกมาเหมือนเป็นเจ้าของ หลังจากนั้นก็จะนำไปขายให้กับร้านรับซื้อรถย่านช้างเผือกหรือลูกค้าที่ต้องการรับซื้อรถมือสอง โดยขายในราคา คันละ 6,000 -7,000 บาท
เมื่อขายรถจักรยานยนต์เสร็จ ก็จะนั่งรถโดยสารประจำทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ มาลงหน้าโรงพยาบาล เพื่อมาเอารถจักรยานยนต์วิบากของตนที่จอดทิ้งไว้หน้าโรงพยาบาล เพื่อขี่กลับบ้านพักในอำเภอสันทราย ซึ่งที่ผ่านมาตนได้ขโมยรถจักรยานยนต์ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ อำเภอแม่ริม 2 คัน โรงพยาบาลสันทราย อำเภอสันทราย 2 คัน กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมตัวได้
เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหา ลักทรัพย์โดยทำด้วยประการอื่น เพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ พร้อมกันนี้ตำรวจจะได้ขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการ และเจ้าของร้านที่รับซื้อรถจักรยานยนต์เถื่อนมาดำเนินคดีต่อไป ซึ่งขณะนี้ตำรวจสามารถติดตามรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายได้ขโมยไป คืนมาได้ 2 คันแล้ว
กรรณิกา
ร่วมแสดงความคิดเห็น