(มีคลิป) ยันปฏิเสธข้อกล่าวหา “พิยดา” สาวหลอกขายมือถือน้องก้อง หลัง ตร.ภาค 5 คุมตัวสอบเครียด อ้างขอเตรียมเอกสารสู้คดี

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 28 ก.ย. 64 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัว น.ส.พิยดา (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาหมายจับที่ 638/64 วันที่ 24 ก.ย. 2564 ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาทำการสอบสวนข้อเพิ่มเติม หลังจากที่ช่วงเช้าวันนี้ ทางด้าน น.ส.พิยดา ได้เดินทางเข้ามอบตัวพร้อมกับทนาย ที่กองบังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ โดยในการสอบสวนดังกล่าวทางด้าน น.ส.พิยดา ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยังคงไม่เปิดปากให้ข้อมูลกับทางผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด

ขณะที่ล่าสุดหลังการเดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ระหว่างนั้นได้มีทางผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักมาปักหลักรอสอบถามทางด้าน น.ส.พิยดา โดยหลังจากลงรถมา น.ส.พิยดา ผู้สื่อข่าวต่างพากันกรูเข้าไปสอบถามกับทาง น.ส.พิยดา แต่ทางเจ้าตัวบอกเพียงว่า “ขอยังไม่ให้ข้อมูลอะไร” และทางเจ้าหน้าที่ได้พาเข้าไปยังห้องสืบสวนขยายผลและตรวจสอบเส้นทางการเงิน ตำรวจภูธรภาค 5 โดยมีทางด้านทนายความติดตามมา เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม โดยมี พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 เป็นผู้ดำเนินการสอบสวน

โดยต่อมา หลังการดำเนินการสอบสวนนานประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง จากนั้น น.ส.พิยดา ได้ออกมาจากห้องโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการควบคุมตัวเพื่อนำขึ้นรถยนต์ส่วนตัวเพื่อเดินทางนำตัว น.ส.พิยดา ไปยัง สภ.นาหวาย โดยระหว่างทางที่เดินไปขึ้นรถนั้น ทางด้านผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักได้พยายามที่จะสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีของน้องก้อง เด็กชายวัย 14 ปี ที่ตกเป็นเหยื่อหลอกขายโทรศัพท์มือถือให้ แต่ทางด้าน น.ส.พิยดา ยังคงไม่ปริปากให้ข้อมูลกับเรื่องนี้และบอกเพียงว่า “รู้สึกเสียใจ” และเดินก้มหน้าขึ้นรถยนต์ส่วนตัวขับออกไปจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อมุ่งหน้าไปยัง สภ.นาหวาย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทางผู้ปกครองของ น้องก้อง ได้เข้าแจ้งความไว้

ขณะที่ภายหลังการสอบสวน ทางด้าน พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในชั้นการจับกุมนั้นทาง น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยทางทนายและเจ้าตัว ก็ได้แจ้งว่าจะขอเวลาเพื่อเตรียมเอกสารนำมาประกอบคำชี้แจง โดยในส่วนของการดำเนินการตอนนี้ได้มีการส่งตัว น.ส.พิยดา ไปยัง สภ.นาหวาย เนื่องจาก สภ.นาหวาย เป็นท้องที่ออกหมายจับ เมื่อมีการจับกุมตัวได้ก็ต้องนำตัวส่งมอบให้กับทางพนักงานสอบสวน โดยจากการซักถาม และจากการตรวจสอบข้อมูลที่มีอยู่ ก็เป็นกระบวนการในการรวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องของการที่ทางผู้ต้องหาจะประกันตัวได้หรือไม่นั้น ก็เป็นสิทธิ์ของทางผู้ต้องหา ส่งนจะมีหลักทรัพย์ในการประกัน หรือพิจารณาแล้วจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ ผกก. หรือหัวหน้าโรงพัก และทางศาล ในการพิจารณา

ส่วนในเรื่องของการที่มีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ เข้ามาร่วมในการจับกุม แล้วจะมีการควบคุมตัวไว้หรือไม่นั้น ก็จะต้องตรวจสอบอีกทีว่า น.ส.พิยดา นั้นมีหมายจับจากสถานีตำรวจ ท้องที่อื่นอีกหรือไม่ และหากตรวจสอบพบว่ามีการออกหมายจับก็จะต้องควบคุมอายัดตัวไปดำเนินคดีให้ครบถ้วน ขณะที่ในเรื่องของผู้ร่วมขบวนการนั้นอาจจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมหากพบเบาะแสหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตามในเรื่องที่ น.ส.พิยดา ให้การปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้น ทางด้านเจ้าตัวก็ไม่ได้ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด แต่ได้ให้การแบบกลางๆ และขออนุญาตไปเตรียมเอกสาร โดยระบุว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานั้น ตนเป็นเพียงคนค้าขายสินค้าออนไลน์อยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าไม่ได้ขายโทรศัพท์ และขอเตรียมเอกสาร และตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม แต่จากการสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วยที่ร่วมกันที่ได้มีการสืบสวนมาอย่างละเอียดรอบคอบ รวมไปถึงพยานหลักฐานที่ใช้ในการออกหมายจับมีความชัดเจนเพียงพอกับการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซึ่งการที่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด

รอง ผบก.สส.ภ.5 บอกอีกว่า ในส่วนของผู้ต้องหา 2 รายที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้นั้น จากการตรวจสอบแล้วพบว่า มีลักษณะการแบ่งหน้าที่กันทำ และการกระทำความผิดร่วมกันในลักษณะนี้ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน โดยเรื่องของการคัดค้านการประกันตัวหรือไม่นั้น ก็อาจจะต้องดำเนินการตรวจสอบอีกครั้ง เนื่องจากพบว่ามีการกระทำความผิดในหลายพื้นที่ และคร่าวๆ ทราบมาว่าผู้ต้องหารายนี้ก็มีการออกหมายจับมาประมาณ 3-4 คดี ในหลายพื้นที่ โดยเป็นลักษณะพฤติการเดียวกัน โดยหลังจากนี้ก็จะต้องดำเนินการตรวจสอบเพื่อนำข้อมูลมาประกอบเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น