เซียนพระเฮ! ลำพูนให้สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง ตลาดพระเครื่อง และแผงพระเครื่อง เปิดดำเนินการได้

วันที่ 28 ก.ย. 64 คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำพูน เผยแพร่คำสั่งที่ 97/2564 เรื่อง ให้สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง ตลาดพระเครื่อง และแผงพระเครื่อง เปิดดำเนินการได้ โดยระบุใจความว่า

ให้สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง สลาดพระเครื่อง และแผงพระเครื่อง ในพื้นที่จังหวัดลำพูน เปิดดำเนินการได้ โดยให้เจ้าของ หรือผู้จัดการสถานที่ดังกล่าว มีหน้าที่รับผิดชอบการดูแลรักษาความสะอาดของสถานที่ ภาชนะและอุปกรณ์ที่ใช้ และจัดให้มีมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด ดังนี้

1) มีมาตรการคัดกรองอาการป่วย ใข้ ไอ จาม หรือเป็นหวัด สำหรับเจ้าของหรือผู้จัดการสถานที่ และผู้ใช้บริการ

2) จัดให้มีการทำความสะอาดพื้น พื้นผิวสัมผัสอย่างสม่ำเสมอ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการให้บริการ และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน

3) ให้เจ้าของหรือผู้จัดการสถานที่ และผู้ใช้บริการ สรมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

4) จัดให้มีที่ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ แอลกอยอล์ แอลกอยอล์เจล หรือน้ำยาฆ่เชื้อโรคอย่างเพียงพอ

5) เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลไม่น้อยกว่า 3 เมตร

6) ให้ควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการมิให้แออัด หรือพิจารณากำหนดมาตรการลดเวลาในการใช้บริการให้สั้นลงเท่าที่จำเป็น โดยถือหลักหลีกเสี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน

7) ให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่ โดยติดตั้งและสแกนแอปพลิเคชั่นไทยชนะ หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูลและรายงานทดแทนได้

ทั้งนี้ ให้นายอำเภอ พนักงานเจ้าหน้าที่ และเจ้าพนักงานควบคุมโรคติคต่อ ในพื้นที่รับผิดชอบ ตรวจสอบการดำเนินการของเจ้าของ หรือผู้จัดการสถานที่ เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งและมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด หากพบการกระทำที่อาจมีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรค นายอำเภอ พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ อาจให้คำแนะนำ ตักเตือน ห้ามปราม และมีอำนาจกำหนดช่วงระยะเวลาเพื่อให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเพื่อป้องกันมีให้มีการแพร่ของโรค รวมทั้งเสนอให้ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติโรคคิดต่อ พ.ศ.2558 มีคำสั่งบิดสถานที่ในพื้นที่รับผิดชอบไว้เป็นการชั่วคราวเฉพาะราย

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และอาจเป็นความผิดตามมาตรา 38 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ร่วมแสดงความคิดเห็น