หลังจากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบรายชื่อ การแต่งตั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อ 3 ส.ค. 64 ที่ผ่านมา และในคำสั่งดังกล่าว มีการโยกย้าย “ผู้ว่าฯประจญ ปรัชญ์สกุล” จาก จ.เชียงราย มารับตำแหน่ง พ่อเมืองคนใหม่ อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ต.ค. 64 นี้ เป็นต้นไป แทน “ผู้ว่าฯ เจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์” ที่เกษียณอายุราชการ เมื่อ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา
เส้นทางชีวิตของ “ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ลำดับที่ 40” เป็นชาวอ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยกำเนิด ใฝ่เรียน จนสามารถสอบรับราชการเป็นทหารหน่วยรบพิเศษ ชั้นประทวน เป็นศิษย์เก่านักเรียนนายสิบแผนที่ทหาร ( นนส.ผท.รุ่น 23) ภาคภูมิใจและยังสำเร็จการศึกษาคณะศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็น “สิงห์ทอง” ที่โดดเด่นในรุ่น จากนั้นจบปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (พัฒนาสังคม) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้รับการยกย่องให้เป็นศิษย์เก่าดีเด่นด้วยผ่านการอบรมหลักสูตรสำคัญๆมากมาย อาทิ นม.ปภ. รุ่น 3 วปภ., นปส. รุ่น 54 วมท. สดร.ที่สำคัญคือจบ วปอ.รุ่น 57 ช่วงปี 2534-48 เป็นปลัดอำเภอ อยู่กรมการปกครอง ก้าวหน้าตามสายงาน และ ช่วงปี 2548-2556 ตัดสินใจย้ายมากรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ผู้ว่าฯประจญ เคยเป็นหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงใหม่ หรือที่เรียก “ปภ.เชียงใหม่” เมื่อปี พ.ศ. 2548 เป็นผู้ตรวจราชการ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้อำนวยการศูนย์ ปภ.เขต 15 เชียงราย ผู้อำนวยการศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง ก่อนจะขยับขึ้นเป็นรองผู้ว่าฯเชียงราย ในช่วงปี 2556 , รองผู้ว่าฯพะเยา (10 ต.ค. 2559 – 30 ก.ย. 2560)
จากนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็น ผวจ.พะเยา เมื่อ 1 ต.ค. 2560 ก่อนจะมีคำสั่งให้มาเป็น ผวจ.เชียงราย เมื่อ 29 มิ.ย. 2561 จนกระทั่งโยกย้ายมารับตำแหน่ง ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ บรรดาผู้ร่วมงาน ผู้ใกล้ชิด จะทราบดีว่า “ผู้ว่าฯประจญ” จะมีระเบียบวินัยในการทำงาน มุ่งมั่น ทุ่มเทกับภารกิจ และ มีแบบแผนดำเนินชีวิต จนกลายเป็นต้นแบบ หรือโมเดลที่บรรดาเพื่อนพ้องน้องพี่ ผู้ใต้บังคับบัญชา ยึดถือ เป็นต้นแบบ เรียนรู้ นำมาใช้ในชีวิตการทำงาน เป็นหนึ่งในผู้บริหาร ที่มีความเป็นกันเองกับ ผู้ใต้บังคับบัญชา และผู้คุ้นเคยมาก จัดว่าเป็นผู้ใหญ่ใจดี มีน้ำใจ และใจถึง พึงได้
อีกท่าน
ช่วงปฏิบัติหน้าที่ ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ มีผลงานโดดเด่นในการบูรณาการความร่วมมือ แก้ปัญหาแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า เมื่อได้รับมอบหมาย ให้ไปปฏิบัติภารกิจ หน้าที่ ในฐานะ”พ่อเมือง”แต่ละจังหวัดไม่ว่าจะที่พะเยา , เชียงราย ได้สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ ชัดเจน จะเห็นได้จาก บทบาท ในตำแหน่งผู้อำนวยการรักษาความมั่นคง ภายใน ได้ใช้กลไก กอ.รมน.เชียงราย สถาปนากองกำลังภาคประชาชนพิทักษ์ชายแดน ร่วมสอดส่องดูช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขปัญหา ยาเสพติด การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จนกระทั่งสำนักงาน ป.ป.ส. คัดเลือกให้จ.เชียงราย ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2564 เป็นรางวัล 1 ใน 3 ของรางวัลระดับประเทศ ที่ สำนักงาน ป.ป.ส. พิจารณาหลักการใน 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการป้องกันยาเสพติด ด้านการปราบปราม และด้านการบำบัดฟื้นฟูและพัฒนาผู้ติดยาเสพติด
ช่วงทำหน้าที่ พ่อเมืองเชียงราย ได้วางยุทธศาสตร์พัฒนา เสริมสร้างแหล่งท่องเที่ยวชุมชนใหม่ๆ จัดสรรงบประมาณโครงการพัฒนาถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนและบริเวณโดยรอบ ตลอดจน ดำเนิ นกิจกรรม โครงการปรับปรุงแหล่งน้ำหนองเขียว อ.แม่จัน และ แผนงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ชาวบ้าน ในแต่ละพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ควบคู่ไปกับการ ทุ่มเท ทำงาน ในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาโรคระบาดโควิค –19 อย่างมีระบบ ความตั้งใจ ที่จะดำเนินการเมื่อย้ายมาเป็น ผู้ว่าฯเชียงใหม่ก่อนเกษียณอายุราชการ 30 กย.2565 คือ การพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า บริหารจัดการแหล่งน้ำและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง อุทกภัย ให้เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมๆกับ แผนกระตุ้นฟื้นฟู เพชรเม็ดงามแห่งล้านนาอย่างเชียงใหม่ ให้เจิดจรัส อีกครั้ง ในภาคบริการ ภาคการท่องเที่ยว
ผลงานจะเป็นที่ประจักษ์ มากน้อยเพียงใด ชาวเชียงใหม่ ต้องติดตาม และต้องร่วมมือร่วมใจ เพื่อจ.เชียงใหม่ ก้าวสู่ เมืองน่าอยู่ประตูสู่เมืองมั่งคั่ง มั่นคงตลอดไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น