ย้อนไปเมื่อในอดีตก่อนจะเป็นหมู่บ้านผาหมีที่มีถนนหนทางเข้าถึง ชาวบ้านในพื้นที่ต้องอยู่อย่างยากลำบาก และหวาดผวา เพราะหมู่บ้านอยู่ติดชายแดนท่ามกลางเสียงปืน และเสียงสู้รบของกองกำลังพม่ากับชนกลุ่มน้อย หลังจากที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทราบจึงมีความเป็นห่วงราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อาจเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายและการแพร่ระบาดของยาเสพติด แถมสภาพหมู่บ้านอยู่บนภูเขาสูง ทุรกันดาร การเดินทางยากลำบาก ชาวไทยภูเขาไม่มีอาชีพที่แน่นอน พระองค์จึงเสด็จมาพระราชทานความช่วยเหลือ และรับสั่งให้ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในพื้นที่ใหม่ที่ปลอดภัยกว่า คือ พื้นที่ของดอยผาหมีในปัจจุบัน พระองค์เสด็จมาที่ดอยผาหมีถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2513 และครั้งต่อไปคือ ปี 2516 และปี 2517 เพื่อติดตามผลว่าชาวบ้านมีความเป็นอยู่อย่างไรบ้างหลังจากที่ได้พระราชทานความช่วยเหลือ สิ่งของ สัตว์เลี้ยง และพันธุ์พืชกาแฟ
หลังจากที่พระองค์เสด็จมาพระราชทานความช่วยเหลือ สร้างอาชีพ สร้างถนนหนทาง จนชาวบ้านมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พระองค์ทรงตรัสกับพ่อหลวงว่า ขอให้เลิกปลูกฝิ่นและให้รักษาป่าไม้ ต้นน้ำ ซึ่งพ่อหลวงและชาวผาหมีทุกคนได้ปฎิบัติตามและรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับพระองค์จวบจนทุกวันนี้ ดอยผาหมี ถือเป็นต้นกำเนิดกาแฟต้นแรกของประเทศไทย ที่ทรงพระราชทานให้กับชาวเขาปลูกแทนการปลูกฝิ่น
โดยต้นกาแฟที่ปลูกครั้งแรก คือ พันธุ์โรบัสต้า ต่อมาทรงเห็นว่าลักษณะของต้นกาแฟไม่เหมาะกับพื้นที่เชิงเขาสูง จึงพระราชทานพันธุ์อาราบิก้า ให้ปลูกแทน จนปัจจุบันดอยผาหมี เป็นแหล่งปลูกกาแฟที่ใหญ่ และมีชื่อเสียงอันดับต้นของประเทศไทย เพราะฉะนั้นหากได้มาถึงแหล่งกาแฟแล้วก็ต้องลองจิบกาแฟ ซึ่งแต่ละร้านต้องบอกว่าบรรยากาศระดับ 5 ดาว ด้วยวิวภูเขาที่ร้ายล้อมหมู่บ้าน ซึ่งปัจจุบันบ้านผาหมีเป็นทั้งแหล่งส่งออกเมล็ดพันธุ์กาแฟ และแหล่งท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
ร่วมแสดงความคิดเห็น