นักวิจัยวิทย์ มช. พบกระดังงา 5 ชนิดใหม่ของโลก สวยงาม หายาก และใกล้สูญพันธุ์

คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) นำโดย ผศ. ดร.ธนวัฒน์ เชาวสกู ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ น.ส.อานิสรา ดำทองดี นักศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาวิชาความหลากหลายทางชีวภาพ และชีววิทยาชาติพันธุ์ น.ส.ชนิตา อยู่สุขขี และนายเอกพล โพธิขวัญ นักศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชาการสอนชีววิทยา น.ส.หทัยชนก จงสุข นักศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชาชีววิทยา และนายกิติศักดิ์ อ๋องย่อง นักวิจัยอิสระ ค้นพบและตีพิมพ์พืชชนิดใหม่ของโลก วงศ์กระดังงา (Annonaceae) จำนวน 5 ชนิด คือ
• ต่างหูคลองเงิน (Orophea sichaikhanii Damth., Aongyong & Chaowasku) พบที่จังหวัดระนอง
• กระเช้าเขาสก (Pseuduvaria khaosokensis Yoosukkee & Chaowasku) พบที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
• แสดทักษิณา (Winitia thailandana Chaowasku & Aongyong) พบที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
• บุหรงฮาลาบาลา (Dasymaschalon halabalanum Jongsook & Chaowasku) พบที่จังหวัดนราธิวาส
• และการเวกกลีบเรียว (Artabotrys angustipetalus Photikwan & Chaowasku) พบที่จังหวัดกาญจนบุรี
โดยพืชทั้ง 5 ชนิดได้ถูกตรวจสอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิและตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ คือ Plant Ecology and Evolution, Annales Botanici Fennici, European Journal of Taxonomy, Phytotaxa และ Willdenowia ตามลำดับ

พืชทั้ง 5 ชนิดนี้เป็นพืชหายาก ใกล้สูญพันธุ์ จำเป็นต้องอนุรักษ์อย่างเร่งด่วน อีกทั้งควรศึกษาฤทธิ์ทางชีวภาพ เพื่อพัฒนาต่อยอดเป็นพืชสมุนไพร และพัฒนาเป็นไม้ดอกไม้ประดับ พบว่ากระเช้าเขาสกและแสดทักษิณามีดอกสีสันสวยสด ในขณะที่ต่างหูคลองเงินมีดอกรูปร่างน่ารักคล้ายต่างหู ส่วนบุหรงฮาลาบาลา มีดอกขนาดใหญ่ ยาวได้ถึง 10 เซนติเมตร และการเวกกลีบเรียวมีดอกกลิ่นหอมแรง สามารถปลูกเป็นไม้เลื้อยทำซุ้มให้ร่มเงาได้

การค้นพบครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าประเทศไทย เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก และยังมีสิ่งที่มีชีวิตที่รอการค้นพบอยู่อีกเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นที่ทุกภาคส่วนจะต้องให้ความสำคัญ กับการศึกษาความหลายหลายทางชีวภาพ ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายในระดับชนิด ยีน หรือระบบนิเวศ ปัจจุบันยังขาดแคลนนักอนุกรมวิธานอยู่เป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกัน นักอนุกรมวิธานที่ทำงานอยู่ กลับไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร ทำให้สิ่งมีชีวิตที่เปราะบางอาจสูญพันธุ์ ก่อนการถูกค้นพบและตั้งชื่อวิทยาศาสตร์
ผลงานวิจัยนี้ ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.)

ร่วมแสดงความคิดเห็น