“เลี้ยงลูกนกตกจากรัง…บทเรียนราคาแพง” จากกระทู้ใน pantip

20 พ.ย. 2558 เวลา 01.35 น. มีผู้เขียนบทความลงกระทู้ ในเว็บ Pantip หัวข้อว่า “บทเรียนราคาแพง กับการเลี้ยงลูกนกตกจากรัง” เป็นกรทู้แบ่งปันประสบการณ์การเก็บลูกนกมาเลี้ยง และแบ่งปันการเลี้ยงนกที่ถูกต้อง ในบทความเขียน ดังนี้

“สวัสดีค่ะ เราขอแชร์ประสบการณ์ และอุธาหรณ์จากการเลี้ยงลูกนกที่ตกลงมาจากรัง นะคะ เพราะข้อมูลในอินเตอร์เน็ตก็มีอยู่เยอะ ถูกบ้างผิดบ้าง เราจึงอยากเล่าจากประสบการณ์ตรงของเราไว้ เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้าง

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. เราไปงานรับปริญญาที่เอแบคกับแฟน อยู่ดีๆ ก็มีลูกนกมายืนอยู่ตรงคอแฟนเราตอนไหนไม่รู้ค่ะ ขนเริ่มขึ้นแล้ว กระโดดโผระยะใกล้สักคืบนึงได้

เรากับแฟนเดินหารังลูกนกเผื่อจะเจอ แต่บริเวณนั้นเป็นต้นไม้สูงมาก ไม่รู้ว่ามองไม่เห็นหรือว่ารังนกไม่ได้อยู่แถวนั้น แต่ถ้าเจอรังก็คงปีนขึ้นไปไม่ได้อยู่ดีเพราะต้นไม้เป็นแบบสูงฉรูดไม่มีกิ่งก้านให้ปีนเลย เราจึงตัดสินใจนำลูกนกกลับมาดูแลเอง เพราะถ้าปล่อยไว้บนพื้นแถวนั้น ยังงัยก็ตายแน่นอน ระหว่างที่ยังไม่เสร็จธุระจากที่เอแบค เราไปซื้อข้าวโพดตรงเซเว่นมาบดป้อนเพราะกลัวนกหิว ลูกนกก็ดูจะกินได้ดี แต่ติดตรงที่มันชิ้นใหญ่ แอบกลัวนกติดคอ
เราลองหาข้อมูลในเน็ตดู เค้าบอกให้ใช้อาหารแมวหรืออาหารสุนัขแช่น้ำให้นกกินได้ แต่วันนั้นไม่ได้กลับบ้านด้วย เลยไปร้านขายยาซื้อซีลีแลคกับสลิงมาป้อน เภสัชกรบอกว่าใช้ให้อาหารนกได้จริงๆ เราเคยเลี้ยงนกแก้ว ร้านที่ที่ซื้อนกมาตอนนั้นเค้าบอกให้ใช้ซีลีแลคป้อน ซึ่งนกแก้วเราตอนนั้นก็เลี้ยงจนโต เราจึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหา เราเลี้ยงไว้ในกล่องที่มีรูระบายอากาศ แง้มฝาไว้นิดเดียวเพราะกลัวนกหนาว พยายามดูบ่อยๆ เวลานกตื่นลองยื่นซีลีแลคให้ถ้านกหิวก็จะอ้าปากขอ

พอนกกินเข้าไปตรงถุงลมข้างๆ คอจะป่องขึ้นนิดนึง ตรงนั้นเป็นจุดพักอาหาร ตอนแรกก็ตกใจว่าทำมัยมันพองจัง จากเย็นวันที่ 14 ที่เจอนก เราก็ป้อนอาหารเอง หรือเวลาเราไม่อยู่ก็ฝากพ่อดู และกำชับว่าคอยดูให้ด้วย ป้อนอาหารบ่อยๆ เพราะเราต้องออกไปทำงาน และไม่ค่อยอยู่บ้าน ทุกอย่างดูปกติดี เราคิดว่าอีกสักเดือนนกน่าจะบินได้แล้ว เราจะไปหาฝูงนกพันธ์นี้ที่ไหนนะให้ ไอ้เจ้านี่ไปรวมฝูงด้วยได้ แต่ความฝันของเราก็ต้องหยุดลง

เช้าวันที่ 18 เนื่องจากเราฝากพ่อดู วันนั้นเราลงจากห้องมาตอนเที่ยง แต่พ่อเราลืมให้อาหารเพราะต้องดูแลหลาน และน้องนกไม่ส่งเสียงเรียกเหมือนเคย เราจึงรีบเอานกมาดูเอง นกมีอาการผิดปกติคือกินน้อยมากๆ และดูเพลีย พอสักบ่าย 3 ก็ยังกินน้อย ที่สำคัญไม่ส่งเสียงร้องเลย และมีอาการถ่ายเป็นสีดำๆ ประมาณ 2 ครั้ง เราก็ลองหาข้อมูลดูว่าเป็นอะไร บางคนบอกว่าเป็นลำไส้อักเสบ บางคนบอกว่า ท้องเสีย เรารอดูอาการเห็นน้องนกถ่ายเป็นสีปกติแล้ว ก็วางใจ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เรามาย้อนคิดกี่ที่ก็โกรธตัวเอง

พอ 6 โมงเย็นนกเริ่มมีอาการแย่มากกกก ไม่มีแรงยืน ขาเกร็ง เรากับแฟนขับรถพาไปหาหมอทันทีกะจะไปหาตรงที่เคยพาหมาไปหา แต่มันดันเป็นเวลารถติดมากๆๆ ระหว่างทางเห็นคลินิกสัตว์ที่นึงจึงโทรไปถามว่ารักษานกได้ไหม เค้าบอกให้เข้าไปดูไม่ถนัดแต่เบื้องต้นพอได้ ตอนนั้นอาการนกร่อแรมาก มีวืบนึงคิดว่าน้องนกไปแล้ว ตัวแข็ง นอนตะแคง คือเราร้องไห้ถอดใจแล้วว่าไม่รอดแน่ๆ พอเข้าไปที่คลินิกที่ขับผ่าน คุณหมอตรวจแล้วบอกว่านกผอมมาก จึงให้น้ำเกลือทางผิวหนัง และป้อนกลูโค้สให้นกมีแรง พร้อมกับเอาหลอดไฟสีส้มมากกให้ความอบอุ่น น้องนกดูดีขึ้นค่ะ!! ยืนได้ ตาแป๋ว คุณหมอที่คลินิกแห่งหนึ่ง บอกว่าท่านก็เคยเก็บลูกนกมาเลี้ยง จนโตก็ไปปล่อยที่สวนหลวง เราก็หวังในใจว่าเราจะสามารถพาเจ้านกตัวนี้รอดไปถึงวันนั้นได้

คุณหมอใจดีมาก ให้การช่วยเหลือเบื้องต้น ให้น้ำเกลือ ป้อนกลูโคส กกไฟ จนน้องนกดูดีขึ้น จากที่พะงาบๆ และแนะนำให้พาไปคลีนิก Premier หลัง Paradise ซึ่งชำนาญเรื่องนก และสัตว์แปลกๆ เพราะคลีนิกปกติจะรักษาสุนัขและแมวมากกว่า

ตอนนั้น 2 ทุ่ม เรารีบไปที่ Premier ทันทีเพราะจะปิดประมาณ 3 ทุ่มแล้ว คุณหมอแนะนำวิธีการดูแลที่ถูกต้องและเราก็เอากลับมาดูอาการต่อ แต่ก็บอกตรงๆ ว่าให้เผื่อใจไว้ เพราะลูกนกเป็นสัตว์เล็กและบอบบางมาก แม้มีสิ่งผิดปกติเพียงนิดเดียว อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อลูกนก และถ้าลูกนกที่เคยล้มแล้วทีนึงก็มักจะมีอาการดีขึ้นช่วงนึงก่อนที่ลูกนกจะเสีย เราเอากลับมาบ้านพยายามดูแลอย่างดี ลูกนกเหมือนอาการจะดีอยู่ช่วงนึง กลืนอาหารเอง ประคลองตัวได้ กระพือปีกได้ เรามีความหวังว่าน้องจะกลับมาแข็งแรง เราสัญญาว่าจะใส่ใจน้องมากกว่านี้ จะดูแลน้องอย่างดี และหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์

แต่แล้วน้องก็ค่อยๆ อ่อนแรงลง และไม่สามารถพยุงตัวได้อีกต่อไป เราเฝ้าดูจน ตี 5  น้องนกก็จากไปอย่างสงบ เรารอไม่กล้าไปนอนเพราะเรารู้ว่าน้องกำลังจะไปแล้ว เราไม่อยากให้น้องไปอย่างเดียวดาย ในตอนนั้นเราทำได้แค่นี้จริงๆ นั่งร้องไห้ รับผลจากความผิดพลาดของตัวเอง ผิดที่ประมาทไม่พาน้องไปหาหมอตั้งแต่ตอนกลางวันและไม่ปรึกษาผู้รู้ เพื่อเลี้ยงดูอย่างถูกต้องตั้งแต่แรก ผิดที่เชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไปว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ เราทำได้อยู่แล้ว เป็นความผิดพลาดโง่ๆ ที่ต้องแลกกับ 1 ชีวิต…

เราหวังว่ากระทู้ของเราจะเตือนสติให้บางท่าน ไม่มาผิดพลาดซ้ำรอยแบบเรา ไม่ใช่แค่เรื่องการเลี้ยงลูกนก แต่ในทุกๆเรื่อง เราต้องใส่ใจ ไม่ประมาท และควรทำเต็มที่ให้ไม่ต้องมานั่งเสียใจที่หลัง เพราะเมื่อเราอยากแก้ตัว มันอาจจะไม่มีโอกาศเหลืออีกแล้ว

เราขอแชร์ข้อมูลการเลี้ยงนกที่ถูกต้อง (ตามที่คุณหมอ Premier ให้มานะคะ)
1. อาหาร – ลูกนกต้องการโปรตีนมาก ควรให้กิน อาหารแมวแช่น้ำ อาหารลูกนกม หนอนนก หรือธัญพืช ห้ามอาหารสุนัข ซีลีแลคเพราะมีแต่แป้งและไขมัน
2. เวลาอาหาร – กินทุก 2-3 ชั่วโมง เวลา 6 โมงเช้า-ประมาณ 2 ทุ่ม เป็นเวลาตามธรรมชาติ ถ้าดึกๆ นกยัง Active หรือหิวก็ป้อนได้
3. การป้อน – ใส่สลิงเล็กป้อน หรือพยายามฝึกให้ลูกนกกินเองจิกเองจากช้อน
4. น้ำ – ลูกนกส่วนมากจะได้นำ้จากอาการอยู่แล้ว ไม้ต้องป้อนก็ได้ แต่หากจะป้อน ควรให้นกจิบน้ำเอง ไม่บังคับให้กินเพราะอาจสำลักเข้าทางเดินหายใจได้
5. สถานที่ – เลี้ยงในห้องอุณภูมิปกติ อากาศถ่ายเท และ ต้องกกไฟ โดยเอาหลอกไฟส้ม กำลัง 40 วัตต์ มาส่องให้ความอบอุ่น เพราะลูกนกยังไม่มีขนถ้าเจออุณภูมิต่ำร่างกายจะใช้พลังงานเยอะกว่าปกติมาก
6. ใส่ใจ – อันนี้เพิ่มเองค่ะ เราควรเลี้ยงและสังเกตุความผิดปกติต่างๆ ให้ดี การถ่ายปกติไหม เหลวไปไหม ปกติอึนกต้องสีเขียวและขาวปนกัน นกผอมไปไหม กินเยอะไหม

สุดท้ายนี้เราขอขอบพระคุณคุณหมอที่คลินิก Premier ที่ที่ช่วยเหลือสุดความสามารถ และเอาใจใส่ชีวิตเล็กๆ นี้ วันถัดมาคลินิกได้โทรมาถามอาการน้องด้วย เราจึงแจ้งไปว่าน้องเสียแล้ว ขอบพระคุณคุณหมอที่ให้ความรู้มากมาย

ขอบคุณแฟนเราที่เห็นด้วยกับการช่วยลูกนกมาเลี้ยง ช่วยขับรถพาไปหาหมอทันทีที่เราบอก เลื่อนนัดเพื่อน เพื่อพาน้องไปหาหมอที่ที่2 ไม่มองข้ามชีวิตของลูกนกตัวนี้ และพยายามกับเราจนถึงที่สุดเพื่อยื้อชีวิตของน้องไว้
ขอบคุณน้องนกที่เข้ามาสอนบทเรียนสำคัญนี้กับเรา และขอโทษที่มันต้องแลกกับชีวิตของน้อง เพียงเพราะเรายังทำมันไม่ดีพอ ขออโหสิกรรม เราจะทำบุญไปให้นะ

ปล.น้องนกเป็นนกกระติ๊ดนะคะ เหมือนกับที่เค้าจับมาใส่กรงให้คนปล่อยกันตามวัด เราอยากขอให้ทุกท่านเลิกการปล่อยนก เพราะมันเป็นการสนับสนุนให้มีนกตายไปเป็นจำนวนมากระหว่างโดนจับ และขังเพื่อมาขายแลกกับบุญที่เราอยากได้กัน… ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ”

จากที่ผู้เข้าชม ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นได้กระทู้มากมาย ต่างซาบซึ้ง ต่อการกระทำของผู้แชร์ประสบการณ์ ที่มีความพยายามจะช่วยเหลือนกตัวนี้ บ้างก็แสดงความเสียใจ และให้กำลังใจกับผู้เขียน รวมไปถึงการแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวจากการเลี้ยงนก และสัตว์อื่นๆ มากมาย

ข้อมูลจาก : บทเรียนราคาแพง กับการเลี้ยงลูกนกตกจากรัง – Pantip

ร่วมแสดงความคิดเห็น