จากภาพวงจรปิดจากผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งทวงถามเหตุผลที่กู้ภัยแห่งหนึ่งในอำเภอเชียงดาว ถีบหน้าชายเมาสุรา และยังเตะเสยปลายคางจนได้รับบาดเจ็บหนัก ในช่วงกลางดึก ล่าสุดหัวหน้าของมูลนิธิกู้ภัยอำเภอเชียงดาว ออกมาขอความเป็นธรรมให้ลูกน้องอ้างเข้าไปช่วยตำรวจระงับเหตุชายเมาสุราอาละวาด แต่ถูกทำร้ายด้วยการตุ่ยท้อง 1 ทีก่อนที่ลูกน้องจะฟิวขาด จัดหนักให้ชายเมาสุราแต่โชคร้ายกล้องจับภาพนาทีทำร้ายร่างกายได้อย่างชัดเจน
ผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพเหตตุการณ์จากหน้าบ้านหนังหนึ่งในพื้นที่ บ้าน วังจ๊อม ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 14 ต.ค. 64 เป็นภาพที่มีชายคนหนึ่งมีลักษณะคล้ายกับคนเมาสุราถอดเสื้อเดินเซไปมา กำลังจะผ่านหน้าบ้านที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ โดยมีชายสวมเสื้อสีส้มสะท้อนแสง คล้ายกับทีมกู้ภัย เดินตามมาประกบก่อนที่จะมีปากเสียงด่าทอกัน จนมาจบที่ภาพของชายถอดเสื้อถูกรวบตัวโดยชายใส่เสื้อสีส้มคนหนึ่งก่อนที่จะล้มลงกับพื้น โดยชายที่ถอดเสื้อได้ด่าพ่อของชายเสื้อส้มด้วยความโมโหที่ถูกเหวี่ยงลงกับพื้น ก่อนที่จะถูกถีบด้วยเท้าเข้าที่ใบหน้าอย่างจังจนหงายหลังลงไปนอนกับพื้น ขณะที่กำลังพยายามลุกขึ้นนั่งโดยมีชายเสื้อสีส้มอีกคนช่วยดึงแขนขึ้นมานั่ง กลับถูกเตะเข้าที่ปลายคางอย่างจังจนหน้าหงายและล้มลงไปนอนกับพื้นอีกครั้งรอบนี้แน่นิ่งไปชั่วขณะ ก่อนที่จะมีชายอีกคนสวมเสื้อสีส้มอีกคนเข้ามาพยายามดึงแขนให้ลุกขึ้น จนกระทั่งช่วยกันพยุงร่างชายคนนี้ไปตามถนนออกจากมุมกล้องไป
หลังจากนั้นก็ได้มีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้นำมาแชร์ เนื่องจากชาวบ้านเห็นว่าเป็นการก่อเหตุอุกอาจ และผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นอ้างว่าขี่รถจักรยานยนต์ล้มเองด้วยความเมา แต่อาการหนักชนิดที่ว่ากรามหักสองข้างไม่สามารถกินอาหารได้ทางญาติจึงได้พยายามหากหลักฐานจนมาเจอภาพจากกล้องวงจรปิด
ล่าสุดทราบมาว่า ชายสวมคนใส่เสื้อสีส้มนั้น เป็นทีมกู้ภัยของ มูลนิธิกู้ภัยแห่งหนึ่ง ในอ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และพอภาพถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์การกระทำที่โหด และรุนแรงเกินกว่าเหตุของกู้ภัยกลุ่มนี้ จนทำให้ เฟซบุ๊คของ มูลนิธิกู้ภัยอำเภอเชียงดาว ชี้แจงว่า “เรียนพี่น้องประชาชน จากกรณีที่มีคลิปการทำร้ายร่างกายผู้ก่อเหตุวุ่นวาย สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านยามค่ำคืน ซึ่งคลิปหรือรูปภาพที่นำเสนอไปนั้นเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องที่ท่านได้ดูเพียงด้านเดียว พวกผมจึงอยากขอร้องความเป็นธรรมกับสังคม ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ เวลาประมาณตี 1 ของวันที่ 14 ต.ค. ทางมูลนิธิฯ ได้รับการร้องขอจาก จนท.ตร.เชียงดาว ให้ไปช่วยระงับเหตุคนเมาสุราอารวาดชาวบ้านแถววังจ๊อม เมื่อถึงที่เกิดเหตุ จนท.ได้เจรจาเพื่อจะนำตัวผู้ก่อเหตุไปส่งยังบ้าน แต่ผู้ก่อเหตุได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ก่อน จนเหตุการณ์ได้ดำเนินมาถึงตอนที่มีคลิปออกมา ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่มีใครเห็น ตามความเป็นจริงถ้าผู้ก่อเหตุไม่ทำร้าย จนท.ก่อน ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ แต่เรายอมรับผิดในส่วนที่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ในส่วนนี้พวกผมยอมรับว่าผิดจริง จึงขอโทษสังคมในส่วนที่กระทำไป ต่อไปจะได้นำความผิดพลาดเหล่านี้ไปปรับปรุงในการทำงานต่อไปครับ”
ไม่สามารถเข้าถึงเฟสบุ๊คดังกล่าวได้แล้ว อาจเพราะถูกชาวบ้านเข้าไปถล่มอย่างหนักถึงเหตุผลในการปกป้องลูกน้องของตนเอง ทั้งๆ ที่เป็นการกระทำที่ค่อนข้างเกินกว่าเหตุ ทำให้ต้องปิดกั้น หรืออาจจะปิดเฟสบุ๊คนี้ลงไปแล้ว
ทางด้าน พ.ต.อ.วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเชียงดาว เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นที่มีชาวบ้านแจ้งเหตุให้ตรวจสอบว่ามีชายเมาสุรา นอนอยู่ริมถนนกลัวว่าจะได้รับอันตรายจึงได้แจ้งตำรวจ จึงได้ประสานทีมกู้ภัยไปช่วยตรวจสอบโดยทีมกู้ภัยดังกล่าวไปถึงก่อนตำรวจ และเกิดเหตุการณ์ในคลิปภาพก่อนที่ตำรวจไปถึงแต่ตำรวจเห็นว่าชายเมาสุราได้รับบาดเจ็บแล้วแต่ไม่ทราบว่ามาจากสาเหตุใดจึงได้ให้กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลโดยตำรวจเดินทางไปตรวจสอบด้วยจนกระทั่งไปถึงโรงพยาบาล ชายเมาได้เอะอะโวยวายไม่ยอมรับการรักษาโดยบอกว่าตนเองไม่เป็นอะไร ตำรวจจึงได้ให้ลงบันทึกไว้ก่อนที่นำตัวไปส่งที่บ้านจนหลังจากนั้น 1 วันพบว่ามีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวออกมา ตำรวจจึงได้เรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบสวน และได้ให้นำส่งโรงพยาบาลเพื่อไปตรวจร่างกายและรับการรักษา ซึ่งตอนนี้ตำรวจได้ทราบเรื่องจริงทั้งหมดแล้ว อยู่ในช่วงขั้นตอนของการสอบสวนและรวมรวมหลักฐานโดยเฉพาะผลการตรวจร่างกายของแพทย์ ว่าจะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ หรือว่าทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส กับผู้ก่อเหตุต่อไป ยืนยันไม่เข้าข้างคนผิดให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา
ร่วมแสดงความคิดเห็น