การปราบปรามและจับกุมยาเสพติด (18 ตุลาคม 2564)

ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้มีนโยบายให้มีการบูรณาการงานด้านการข่าวเพื่อความมั่นคงของพลเรือน ตำรวจ ทหาร และทุกภาคส่วน ในการดำเนินการ สกัดกั้น ปราบปราม และจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง ตั้งแต่พื้นที่แนวชายแดน จนถึงพื้นที่ตอนในของประเทศ นั้น มีการจับกุมที่สำคัญ ดังนี้

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ทหาร กองบังคับการควบคุม ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากชายแดนภาคเหนือผ่านพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย เพื่อนำไปส่งให้กับผู้ค้ายาเสพติดที่กรุงเทพมหานคร โดยใช้รถยนต์อเนกประสงค์ยี่ห้อวอลโว่ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียนกรุงเทพมหานคร เป็นพาหนะ จึงจัดกำลังพลปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติดภาค 5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย ติดตามความเคลื่อนไหวผ่านระบบตรวจจับป้ายทะเบียนรถของรถยนต์คันดังกล่าว ต่อมาในวันเดียวกันเวลาประมาณ 17.45 น. เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่า รถคันดังกล่าวกำลัง วิ่งอยู่บนถนนใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่จึงทำการไล่ติดตามไปจนทันที่บริเวณแยกไฟแดงบ้านใหม่ ถนนกลางเวียง ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย

โดยพบว่าในรถคันดังกล่าว มีผู้ขับขี่ซึ่งเป็นชาวไทยเพียงคนเดียว เจ้าหน้าที่ได้แสดงตนและทำการตรวจ ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 300,000 เม็ด, ยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 (เคตามีน) น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในกระสอบพลาสติกวางไว้ที่เบาะผู้โดยสารตอนหลัง เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวคนขับรถพร้อมของกลางดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือมีเบาะแสข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ขอความกรุณาได้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติในการปราบปรามและจับกุม อย่างเป็นรูปธรรมตามกฎหมาย อีกทั้งหากพี่น้องประชาชนมีความประสงค์จะส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

โดยตรง ให้กับ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 สามารถส่งข้อมูลผ่านระบบ Applications Line ชื่อ “สายตรงแม่ทัพภาคที่ 3” ID Line : ISOC3 เพื่อรับทราบข้อมูลและนำไปสู่การปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย สร้างความมั่นคงให้สังคมไทยสืบไป

คณะบรรณาธิการข่าว กองทัพภาคที่ 3
21 ตุลาคม 2564

ร่วมแสดงความคิดเห็น