ข่าวปลอม!ปตท. รายได้สูงถึง 3 ล้านล้านบาท/ปี แต่นำส่งเข้ารัฐแค่ 1% เท่านั้น

 

วันที่ 25 ต.ค. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันข้อมูลว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูล เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ปตท. รายได้สูงถึง 3 ล้านล้านบาท/ปี แต่นำส่งเข้ารัฐแค่ 1% เท่านั้น ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กระทรวงพลังงาน พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีการโพสต์ให้ข้อมูลที่ระบุว่า ปตท. มีรายได้ปีละ 3 ล้านล้านบาท แต่น้ำเงินส่งเข้ารัฐเพียงแค่ 2-3 หมื่นล้านบาท คิดเป็นแค่ 1% เท่านั้น ทางบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กระทรวงพลังงาน ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงประเด็นดังกล่าวว่า รายได้ของ ปตท. ไม่เคยสูงถึง 3 ล้านล้านบาท และการคำนวณเงินส่งเข้ารัฐคิดจากกำไรไม่ใช่รายได้ โดยในปี 2563 รายได้ ปตท. อยู่ที่ 1.61 ล้านล้านบาท EBITDA (Earnings before Interest, Tax, Depreciation and Amortization) หรือ กำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย, ภาษี, ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย อยู่ที่ประมาณ 2.25 แสนล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 3.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปี 2563 กลุ่ม ปตท. นำส่งรายได้ให้รัฐจำนวน 36,535 ล้านบาท อ้างอิงจาก https://pttinsight.com/api/upload/issues/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%95%E0%B8%97.jpg

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.pttplc.com/th/Home.aspx

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : รายได้ของ ปตท. ไม่เคยสูงถึง 3 ล้านล้านบาท และการคำนวณเงินส่งเข้ารัฐคิดจากกำไร ไม่ใช่รายได้ โดยในปี 2563 รายได้ ปตท. อยู่ที่ 1.61 ล้านล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 3.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปี 2563 กลุ่ม ปตท. นำส่งรายได้ให้รัฐจำนวน 36,535 ล้านบาท

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ร่วมแสดงความคิดเห็น