ข่าวปลอม!ไปเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบต. วันที่ 28 พ.ย. 64 ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว

วันที่ 24 พ.ย. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันข้อมูลว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ไปเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบต. วันที่ 28 พ.ย. 64 ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทาง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

ตามที่มีการเผยรูปภาพที่มีเนื้อหาระบุว่าเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบต. วันที่ 28 พ.ย. 64 นี้ผู้ที่จะไปเลือกตั้งต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ชี้แจงว่า ตามมาตราการกับทางกรมควบคุมโรค จะมีแค่เจ้าหน้าคอยวัดอุณหภูมิ หากมีประชาชนที่มีอุณหภูมิเกินกว่ามาตราฐานจะมีการจับแยก และมีการเตรียมหน้ากากอนามัย พร้อมแอลกอฮอล์ ให้สำหรับประชาชนชนที่ลืม

ทั้งนี้อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้แนะนำวิธีการเตรียมความพร้อมก่อนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งอบต. เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือด้วยเจลแอกอฮอล์หลังสัมผัสสิ่งของ และเว้นระยะห่าง

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.ect.go.th หรือโทร. 02 1418888

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ไม่มีการกำหนดว่าผู้ที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบต. วันที่ 28 พ.ย. 64 จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วเท่านั้น

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ร่วมแสดงความคิดเห็น