(มีคลิป) โควิด-19 เชียงใหม่ ดีขึ้นต่อเนื่อง เตรียมถอยกำลังโรงพยาบาลสนาม คืนพื้นที่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

สถานการณ์โรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราการครองเตียงผู้ป่วยสีแดง และสีส้มเข้ม มีแนวโน้มลดลง เตรียมถอยกำลังจากโรงพยาบาลสนาม เพื่อคืนพื้นที่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

วันนี้ (30 พ.ย. 64) ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยสถานการณ์โรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ประจำวัน ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมบ่ายวันนี้ ว่า เชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 172 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด 3 ราย ที่เหลือเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยมาจากทั้งคลัสเตอร์ใหม่และคลัสเตอร์เดิมที่ยังคงมีการระบาดต่อเนื่อง 19 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ดอยสะเก็ด 5 ราย, คลัสเตอร์งานแต่งบ้านป่าไม้แดง หมู่ 7 กึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง 2 ราย, คลัสเตอร์ หจก.ฟ้ามุ่ยฝ้ายงาม หมู่ 4 ท่าวังตาล อำเภอสารภี 2 ราย, คลัสเตอร์บริษัทอินโนเวทีฟวิลเลจ ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง 2 ราย, คลัสเตอร์บุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลสันทราย 2 ราย นอกนั้นเป็นคลัสเตอร์เล็ก ๆ ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่คลัสเตอร์ละ 1 ราย

ด้านการตรวจพบจากกลุ่มเสี่ยงระหว่างการกักตัว การออกตรวจเชิงรุก และการติดตามผู้สัมผัสจากคลัสเตอร์เดิม พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 15 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์แคมป์บริษัทไฮไลท์ดีเวลลอปเม้นท์ ตำบลท่าศาลา 4 ราย, รพ.สต.บ้านใหม่ ตำบลเมืองคอง อำเภอเชียงดาว 3 ราย, ตลาดรวมโชค 2 ราย และคลัสเตอร์อื่น ๆ พบผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์ละ 1 ราย ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังและดำเนินการควบคุมโรคอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเพิ่มขึ้น

ส่วนคลัสเตอร์กลุ่มครอบครัว พบน้อยลงเพียง 7 ราย จากหอพักบ้านเงินสมบูรณ์ หมู่ 8 ตำบลสันผีเสื้อ, หมู่ 7 ตำบลสันกำแพง อำเภอสันกำแพง, หมู่ 5 ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย แห่งละ 2 ราย และที่หมู่ 2 ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองเชียงใหม่ 1 ราย โดยอำเภอที่พบการระบาดมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ 44 ราย ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ 26 ราย, อำเภอสารภี 14 ราย, อำเภอดอยสะเก็ด 12 ราย, อำเภอสันทราย 10 ราย และอำเภอแม่แตง 9 ราย

สำหรับผู้เสียชีวิต 1 รายวันนี้ เป็นชายไทย อายุ 75 ปี มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง สัมผัสผู้ติดเชื้อภายในครอบครัว และไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน โดยวันที่ 28 ตุลาคม ตรวจพบเชื้อโควิด-19 จากนั้นมีอาการเหนื่อยมากขึ้น ออกซิเจนในเลือดต่ำ จึงได้ใส่ท่อช่วยหายใจ และวันที่ 23 พฤศจิกายน พบว่าติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน มีภาวะลมรั่วในช่องอกและเลือดออกจากปอด กระทั่งวันที่ 28 พฤศจิกายน ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตลงในเวลา 11.51 น.

ด้านการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุขได้ให้สาธารณสุขทุกจังหวัด จัดสัปดาห์รณรงค์ “ฉีดวัคซีนโควิดตามเป้าหมาย 100 ล้านโดสทั่วประเทศ” ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน – 5 ธันวาคม 2564 จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้จัดแคมเปญพิเศษสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยให้เลือกสูตรเองได้ คือ AstraZeneca + Pfizer และ Sinovac + AstraZeneca สำหรับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยประชาชนสามารถ Walk in เข้ารับการฉีดได้ที่หน่วยฉีดระดับอำเภอทุกแห่ง และหน่วยฉีดในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 098-1023422 ,098-1025783 และ 098-1028632

ทั้งนี้ พบว่าสถานการณ์ภาพรวมในจังหวัดเชียงใหม่ดีขึ้นมาก มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัดลดลง และในวันนี้ไม่พบว่ามีอำเภอใดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เกินกว่า 50 ราย อย่างไรก็ตาม ประชาชนทุกคนยังคงต้องร่วมมือกันรักษามาตรการการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราการครองเตียงผู้ป่วยสีแดง และสีส้มเข้ม พบว่ามีแนวโน้มลดลง ทำให้คงเหลือเตียงว่างรองรับอยู่ถึงร้อยละ 26 ซึ่งขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ ได้เริ่มจัดทำแผนถอยกำลังจากโรงพยาบาลสนาม ที่ใช้สำหรับการรักษาผู้ป่วยเตียงเหลือง หรือผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง แต่ต้องได้รับการดูแล รักษาจาก แพทย์ พยาบาลซึ่งปัจจุบันมีจำนวนน้อยลง และสามารถเข้าสู่การรักษาพยาบาลตามโรงพยาบาลปกติได้ โดยคาดว่าจะสามารถคืนพื้นที่ให้แก่ศูนย์ประชุมฯ ได้ในเร็ว ๆ นี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น