ข่าวจริง!!!กทม. ให้กลุ่มเสี่ยงลงทะเบียนรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ฟรีถึง 31 ธ.ค. 64

วันที่ 1 ธ.ค. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันข้อมูลว่าเป็นข่าวจริง เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการนำเสนอข่าวสารในประเด็นเรื่อง กทม. ให้กลุ่มเสี่ยงลงทะเบียนรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ฟรีถึง 31 ธ.ค. 64 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า นอกจากการรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว ปัจจุบันกรุงเทพมหานครยังได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในสถานพยาบาลของกรุงเทพมหานครด้วย ซึ่งกรุงเทพมหานครได้รับการจัดสรรวัคซีนไข้หวัดใหญ่จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อบริการให้กลุ่มเสี่ยงเดิมที่ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีเป็นประจำทุกปี ได้แก่
1. หญิงมีครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
2. ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หัวใจ หอบหืด ไตวาย หลอดเลือดสมอง เบาหวาน และผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับยาเคมีบำบัด
3. ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป
4. เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี
5. ผู้พิการทางสมอง ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
6. ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ)
7. โรคอ้วน (ผู้ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมวลกายตั้งแต่ 35 กิโลกรัม/ตารางเมตร)

แต่เนื่องด้วยอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงได้เพิ่มเติม 3 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่
1. บุคลากรหรือผู้ปฏิบัติงานที่ให้บริการดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19
2. กลุ่มที่อยู่สถานที่ที่มีการรวมตัวของประชากรจำนวนมากเสี่ยงต่อการระบาด (ทุกช่วงอายุ) เช่น ชุมชนแออัด โรงเรียน ตลาด ผู้ขับขี่รถสาธารณะ
3. กลุ่มเสี่ยงอื่น ๆ ขึ้นกับสถานการณ์ (ทุกช่วงอายุ)

โดยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่จะช่วยในการป้องกันการเกิดโรคที่รุนแรง และเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะช่วยลดความสับสนในการตรวจวินิจฉัยและให้การรักษาระหว่างโรคไข้หวัดใหญ่และโรคโควิด-19 ซึ่งประชาชนสามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่พร้อมกับวัคซีนโควิด-19 โดยกลุ่มเสี่ยงสามารถจองสิทธิ์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ล่วงหน้าได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 ธ.ค. 64 ผ่าน 4 ช่องทางหลัก คือ
1. สายด่วน สปสช. โทร. 1330 กด 1 หลังจากนั้นกด 8 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น. (ทั่วประเทศ)
2. หน่วยบริการประจำหรือโรงพยาบาลในระบบบัตรทอง (ทั่วประเทศ)
3. Line @UCBKK สร้างสุข (เฉพาะผู้มีสิทธิบัตรทองหรือพักอาศัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร) ให้บริการวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 08.30 – 18.00 น. ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 09.00 – 16.00 น.
4. จองสิทธิฉีดวัคซีนผ่าน Health Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้มีการประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีนเป็นกลุ่มก้อนด้วย เพื่อความสะดวกของผู้รับบริการ รวมถึงการวางแผนการบริหารจัดการวัคซีน และลดความแออัดของผู้มารับบริการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน และกลุ่มงานประกันสุขภาพของ 11 โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.prbangkok.com หรือโทร 0-2221-2141-69

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ร่วมแสดงความคิดเห็น