ข่าวปลอม!!!พบเบอร์มิจฉาชีพดูดเงิน หากรับสายเงินหายหมดทั้งบัญชี

วันที่ 7 ธ.ค. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันข้อมูลว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์เรื่อง พบเบอร์มิจฉาชีพดูดเงิน หากรับสายเงินหายหมดทั้งบัญชี ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีการแชร์ข้อความแจ้งเตือนระบุเบอร์ที่ห้ามรับสายเด็ดขาด เพราะเงินจะถูกขโมยจนหมดบัญชีนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงว่า จากการตรวจสอบกับฝ่ายเทคนิคของผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่พบว่า ยังไม่มีการยืนยันว่าถ้ารับสายจากหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาแล้วจะสามารถดึงเอาเงินในบัญชีของผู้รับสายไปจากบัญชีได้

แต่ขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง อย่าให้ข้อมูลสำคัญของตัวเอง ข้อมูลทางธนาคารกับใครง่ายๆ เพราะอาจถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลเหล่านั้น ไปใช้ในการเข้าถึงบัญชีธนาคารหลอกให้ทำธุรกรรม จนต้องสูญเสียเงินได้

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกสทช. สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.nbtc.go.th หรือโทร. 02 6708888

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ยังไม่มีการยืนยันว่าถ้ารับสายจากหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาแล้วจะสามารถดึงเอาเงินในบัญชีของผู้รับสายไปจากบัญชีได้

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ร่วมแสดงความคิดเห็น