องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่ราษฎร พร้อมติดตามโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ จ.น่าน

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 เวลา 10.30 น. ณ ฐานปฏิบัติการบ้านสว้า (มว.ที่ ตชด.3253) ตำบลดงพญา อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ เพิ่มเกษร รองเลขาธิการ กปร. และคณะอนุกรรมการฯ เชิญถุงพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปมอบแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานหน่วยงานความมั่นคง  จำนวน 65 ถุง และกองร้อยทหารพรานที่ 3204 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดนรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่ประชาชน โอกาสนี้ องคมนตรี รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ จากนั้นได้ปลูกต้นไทรย้อยใบแหลมเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้แก่พื้นที่

ต่อมาคณะฯ เดินทางไปยังโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านสะจุก-สะเกี้ยง ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน เพื่อรับฟังผลการดำเนินงาน และเดินทางไปยังบ้านสะเกี้ยง พร้อมเชิญถุงพระราชทานรวมทั้งสิ้น 406 ถุงไปมอบแก่ราษฎรและผู้ปฏิบัติงานในโครงการฯ และเสื้อกันหนาว รวม 227 ตัว มอบแก่เด็ก เพื่อบรรเทาความหนาวเย็นจากสภาพภูมิอากาศ โอกาสนี้ได้มอบของที่ระลึกพระราชทานแก่ผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 2 ราย รวมทั้งมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานแก่ตัวแทนราษฎร

จากนั้นได้เยี่ยมชมผลสัมฤทธิ์จากการดำเนินงานตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีพระราชดำริให้จัดตั้ง “สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง” ขึ้น โดยเน้นเรื่อง “คนอยู่คู่กับป่า อย่างเกื้อกูลกัน” มาเป็นแนวทางในการพัฒนา เนื่องจากในอดีตมีการบุกรุกทำลายพื้นที่ป่าไม้บนพื้นที่สูง ปัจจุบันราษฎรชาวไทยภูเขาเผ่าลั้วะบ้านสะจุกมีประชากรรวม 495 คน บ้านสะเกี้ยงรวม 580 คน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีอาหารที่ปลอดภัยบริโภคได้เพียงพอ มีรายได้จากการทำการเกษตร เดิมที่มีรายได้เฉลี่ยเพียง 21,000 บาทต่อครัวเรือนต่อปี เป็น 76,000 บาทต่อครัวเรือนต่อปี จากการจำหน่ายผลผลิต เช่น การปลูกหม่อนผลสด เสาวรส สตรอว์เบอร์รี กาแฟ พืชผักหลังนา และการเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นแหล่งอาหารโปรตีนและจำหน่าย นอกจากนี้ยังฟื้นฟูระบบนิเวศให้ดีขึ้นทำให้ป่าต้นน้ำมีความอุดมสมบูรณ์ เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งยังสามารถลดการใช้พื้นที่ทำการเกษตรแต่ยังคงได้รับผลผลิตเพิ่มขึ้น ส่งเสริมการปลูกไม้ผล ที่ให้ผลผลิตได้ในระยะยาว เช่น อะโวคาโด มะม่วง ซึ่งได้สร้างความภาคภูมิใจแก่ชาวเขาเผ่าลั๊วะ ที่สามารถประกอบอาชีพและมีรายได้เลี้ยงครอบครัว สามารถส่งลูกเรียนหนังสือในระดับที่สูงขึ้น ทั้งระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ปริญญาตรี และปริญญาโท รวม 25 ครัวเรือน จึงไม่มีการอพยพแรงงานย้ายถิ่นไปทำงานในเมืองหรือต่างจังหวัด ครอบครัวอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาและมีความสุข

เวลา 15.10 น. คณะเดินทางไปยังโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ภูพยัคฆ์ ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน เชิญถุงพระราชทานรวมทั้งสิ้น 447 ถุง ไปมอบแก่ราษฎรและผู้ปฏิบัติงานพร้อมเสื้อกันหนาว จำนวน 230 ตัว ไปมอบแก่เด็กในพื้นที่โครงการฯ  และเยี่ยมชมผลผลิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ปัจจุบันราษฎร มีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนเพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่เคยมีรายได้เพียง 29,750 บาทต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 59,082 บาทต่อปี จากการส่งเสริมปลูกหม่อนผลสด กาแฟ และการทำนาแบบขั้นบันไดซึ่งให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเพียงพอต่อการบริโภค พื้นที่ป่าได้รับการฟื้นฟูประมาณร้อยละ 100 ส่งผลให้แหล่งต้นน้ำมีคุณภาพดี น้ำใส  และมีอัตราการไหลสม่ำเสมอตลอดทั้งปี ทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้และอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืนตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ร่วมแสดงความคิดเห็น