ข่าวปลอม!!!กินน้ำใบกะเพรา ช่วยล้างสารพิษจากวัคซีนได้

วันที่ 15 ม.ค. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่ได้มีคำแนะนำในประเด็นเรื่อง กินน้ำใบกะเพรา ช่วยล้างสารพิษจากวัคซีนได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
กรณีการส่งต่อข้อมูลแนะนำ ที่ระบุถึงการล้างสารพิษจากวัคซีน ด้วยการดื่มน้ำต้มใบกะเพรานั้น ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า การดื่มน้ำต้มกะเพราไม่สามารถล้างพิษจากการฉีดวัคซีนได้ และอาการที่เกิดขึ้นเป็นเพียงอาการข้างเคียงจากการได้รับวัคซีนซึ่งเกิดจากการตอบสนองภูมิคุ้มกันในร่างกาย ไม่ใช่การได้รับสารพิษแต่อย่างใด ซึ่งอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีนอาจมีสาเหตุมาจากวัคซีนโดยตรง (Adverse reaction) หรือไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีนโดยตรงก็ได้ เช่น เกิดจากความเครียดหรือวิตกกังวลของผู้รับวัคซีน หรืออาจมาจากภาวะร่วมอื่น ๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน
ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนไม่ได้เป็นการฉีดสารพิษเข้าสู่ร่างกายดังที่ข่าวกล่าวอ้าง แต่การฉีดวัคซีนสามารถพบอาการข้างเคียงได้จากการฉีด อาการที่พบ ได้แก่ อาการข้างเคียงชั่วคราว เช่น อาการปวดศีรษะ เหนื่อยล้า และมีไข้ เป็นสัญญาณว่าระบบภูมิคุ้มกันของมุษย์เรากำลังทำงาน ซึ่งเป็นการที่ร่างกายตอบสนองต่อวัคซีนตามปกติ และเป็นเรื่องที่พบเห็นทั่ว ๆ ไป แต่ในกรณีอาการที่เกิดขึ้นรุนแรง เช่น แน่นหน้าอกหายใจไม่ออก หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว กล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกคนมีการตอบสนองแตกต่างกัน หากผู้ที่ฉีดวัคซีนไม่มีอาการอะไรเลยในหนึ่งหรือสองวันหลังจากที่ฉีดวัคซีนทั้งสองเข็ม ก็ไม่ได้หมายความว่าวัคซีนไม่ทำงาน หรือการฉีดวัคซีนไม่ได้ผล

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.dtam.moph.go.th หรือโทร. 02 5917007

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การดื่มน้ำต้มกะเพราไม่สามารถล้างพิษจากการฉีดวัคซีนได้ และอาการที่เกิดขึ้นเป็นเพียงอาการข้างเคียงจากการได้รับวัคซีนซึ่งเกิดจากการตอบสนองภูมิคุ้มกันในร่างกาย ไม่ใช่การได้รับสารพิษแต่อย่างใด

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น