ข่าวบิดเบือน!!! ใบย่านาง พลูคาว รางจืด ปั่นละเอียดต้มน้ำใช้ล้างพิษในร่างกายได้ 80-90%

วันที่ 15 ม.ค. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวบิดเบือน เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์เรื่อง ใบย่านาง พลูคาว รางจืด ปั่นละเอียดต้มน้ำใช้ล้างพิษในร่างกายได้ 80-90% ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน

กรณีที่มีการโพสต์ให้ข้อมูลแนะนำด้านสุขภาพโดยระบุว่า ใบย่านาง พลูคาว รางจืด อย่างละ 20 ใบ ปั่นละเอียด ต้มน้ำ 2 ลิตร 15 นาที สามารถล้างพิษในร่างกาย 80-90% ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า ย่านาง พลูคาว และรางจืดมีสรรพคุณทางตำรายาด้านการดับพิษและลดไข้ ซึ่งอาจช่วยล้างพิษในร่างกายได้ แต่ยังไม่มีข้อมูลความปลอดภัยเรื่องปริมาณ และระยะเวลาที่เหมาะสมหากรับประทานร่วมกัน ซึ่งการรับประทานนานเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย เกิดการไม่สมดุลของธาตุและสารต่างๆ ในร่างกายได้ เนื่องจากพืชทั้ง 3 ชนิดเป็นยาเย็นทั้งหมด จึงควรระมัดระวังในการใช้สมุนไพรทั้ง 3 ชนิดร่วมกัน เนื่องจากข้อมูลยังน้อย ต้องรอหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนเพิ่มเติมต่อไป ทั้งนี้หัวข้อดังกล่าวเป็นการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อขายสินค้า ดังนั้น ควรใช้วิจารณญาณ หากไม่แน่ใจหรือมีโรคเรื้อรังควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลก่อนรับประทานสมุนไพรใดเพิ่มเติมจากยาที่ใช้อยู่เป็นประจำ อีกทั้งการรับประทานพลูคาวมากเกินไป จะทำให้อาเจียนได้ หรือถ้านำมาใช้ภายนอกในปริมาณที่มากเกินไป ก็จะทำให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง ทำให้เป็นแผลพองได้ และควรระวังการใช้รางจืดในผู้ป่วยเบาหวาน เพราะอาจเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.dtam.moph.go.th หรือโทร. 02 5917007

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ย่านาง พลูคาว และรางจืดมีสรรพคุณทางตำรายาด้านการดับพิษและลดไข้ ซึ่งอาจช่วยล้างพิษในร่างกายได้ แต่ยังไม่มีข้อมูลความปลอดภัยเรื่องปริมาณ และระยะเวลาที่เหมาะสมในการรับประทานร่วมกัน ซึ่งการรับประทานนานเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น