ข่าวปลอม!!! ขมิ้นชัน สามารถรักษาโรคฟันผุให้หายได้

วันที่ 21 ม.ค. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการแชร์ข้อความเกี่ยวกับเรื่อง ขมิ้นชัน สามารถรักษาโรคฟันผุให้หายได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากสูตรที่บอกว่าให้นำขมิ้นชัน และเบกกิ้งโซดามาขัด หรือพอกที่ฟัน เพื่อรักษาฟันผุ ทางกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากขมิ้นชันไม่สามารถรักษาโรคฟันผุได้ เพราะโรคฟันผุ เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษา และป้องกันได้โดยวิธีการใช้สมุนไพร ต้องรักษาด้วยการอุดฟัน รักษารากฟันหรือถอนฟันเท่านั้น โดยสาเหตุการเกิดโรคฟันผุมีดังนี้
1. สภาพฟัน และสภาพช่องปากของแต่ละคน
2. เชื้อแบคทีเรียในช่องปาก
3. อาหาร โดยเฉพาะอาหารหวาน ๆ อาหารที่มีน้ำตาล
4. พฤติกรรมการบริโภค เวลาและความถี่ในการบริโภค
ซึ่งทั้งนี้ การป้องกันการเกิดโรคฟันผุ มีวิธีปฏิบัติอย่างง่าย ๆ คือ แปรงฟันด้วยสูตร 2-2-2 ได้แก่ แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือ เช้าและก่อนนอน, แปรงฟันนานครั้งละ 2 นาที และไม่รับประทานอาหาร และน้ำหลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมง ใช้ไหมขัดฟันร่วมกับการแปรงฟัน อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อกำจัดเศษอาหารบริเวณซอกฟัน และหมั่นตรวจสุขภาพช่องปากอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.anamai.moph.go.th หรือ https://sasuksure.anamai.moph.go.th/site หรือโทร.02 5904000

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ขมิ้นชันไม่สามารถรักษาโรคฟันผุได้ เพราะโรคฟันผุ เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษา และป้องกันได้โดยวิธีการใช้สมุนไพร ต้องรักษาด้วยการอุดฟัน รักษารากฟันหรือถอนฟันเท่านั้น

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น