ไขข้อเท็จจริงรองเท้าเพื่อสุขภาพต่างจากรองเท้าทั่วไปตรงไหน

 

 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การดูแลสุขภาพนับว่าเป็นกระแสที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่องในกลุ่มของหนุ่มสาววัยทำงาน เห็นได้จากการที่คนกลุ่มนี้ใส่ใจไปกับการเลือกทานอาหารคลีน รวมไปถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เน้นดูแลร่างกายของตัวเองเป็นหลัก โดยรองเท้าเพื่อสุขภาพเองก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสินค้าทางเลือกที่หนุ่มสาวออฟฟิศให้ความสนใจ เพราะด้วยคุณสมบัติในการป้องกันและลดอาการเจ็บปวดทั้งบริเวณฝ่าเท่า, ข้อเข่า, สะโพก และหลังสินค้าประเภทนี้ ดังนั้นจึงตอบโจทย์ความต้องการของหนุ่มสาววัยทำงานในเรื่องการดูแลสุภาพระยะยาวเป็นอย่างมาก

 

ถึงแม้รองเท้าเพื่อสุขภาพจะมีจุดเด่นในเรื่องของดูแลฝ่าเท้า แต่หลายคนก็อาจจะมีคำถามว่ารองเท้าดังกล่าวนั้นต่างกับรองเท้าปกติยังไง? และจะสามารถช่วยดูแลฝ่าเท้าของเราได้ด้วยวิธีไหน? และเพื่อเป็นการตอบคำถามคาใจ วันนี้เราจึงได้จัดทำบทความเพื่อบอกต่อข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรองเท้าเพื่อสุขภาพขึ้นมา ตามรายละเอียดด้านล่าง ดังนี้

 

รองเท้าทั่วไปต่างจากรองเท้าเพื่อสุขภาพยังไง

 

หากพูดถึงการใช้งานโดยทั่วไป ต้องบอกก่อนว่ารองเท้าทั้งสองประเภทนี้ล้วนมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกันทั้งในเรื่องของการป้องกันอาการบาดเจ็บบริเวณเท้าที่เกินจากการเสียดสีกับพื้นผิว และการช่วยลดแรงกระแทกบริเวณฝ่าเท้า, ข้อเข่า, สะโพก และหลังในขณะเดินหรือวิ่ง แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้รองเท้าทั้งสองประเภทนี้แตกต่างกันคือขีดความสามารถในการดูแลสุขภาพฝ่าเท้าตรงที่รองเท้าเพื่อสุขภาพมักจะได้รับการออกแบบมาให้สามารถรองรับน้ำหนักเพื่อลดแรงกระแทกบริเวณฝ่าเท้ารวมไปถึงส่วนรองรับน้ำหนักอื่นๆ เช่น หัว, สะโพก และหลังเพื่อลดอาการบาดเจ็บได้ดีกว่ารองเท้าทั่วไป เนื่องจากมีส่วนซัปพอร์ตเท้าและมีความยืดหยุ่นสูง

 

ส่วนซัปพอร์ตเท้าคืออะไร? ยืดหยุ่นกว่าอย่างไร?

 

ส่วนซัปพอร์ตอุ้งเท้าคือชิ้นส่วนตรงกลางของรองเท้าที่มีลักษณะนูนขึ้นมาจากพื้นผิวปกติ โดยชิ้นส่วนนี้จะทำหน้าที่รองรับและกระจายน้ำหนักตัวไปยังทุกสิ้นของเท้าเพื่อป้องกันไม่ให้เท้าบริเวณใดบริเวณหนึ่งต้องรับน้ำหนักที่มากเกินไปจนเป็นเหตุให้เกิดอาการบาดเจ็บต่างๆ ตามมา เช่นอาการรองช้ำ รวมไปถึงอาการบาดเจ็บตั้งแต่ส่วนฝ่าเท้าไปจนถึงส่วนอื่นๆ ของร่างกาย นอกจากจะมีที่ซัปพอร์ตเท้าแล้ว รองเท้าสุขภาพยังมีความยืดหยุ่นสูง ใส่แล้วสามารถขยับนิ้วเท้าได้อย่างอิสระ และไม่รู้สึกว่าโดนบีบเท้ามากจนเกินไป

 

วิธีเลือกรองเท้าให้เหมาะกับการดูแลสุขภาพ

 

เพราะการเลือกรองเท้าเพื่อสุขภาพก็เหมือนกับการเลือกรองเท้าทั่วไปที่เราจะต้องใช้ความพิถีพิถันเพื่อให้ผลลัพธ์หลังสวมใส่ทั้งในเรื่องของการป้องกันและลดอาการบาดเจ็บบริเวณฝ่าเท้าเป็นไปตามที่ตัวเองต้องการ โดยเกณฑ์สำคัญที่เราควรใช้เมื่อถึงเวลาเลือกรองเทา ประกอบไปด้วยการเลือกซื้อรองเท้าที่พอสวมใส่แล้วจะต้องไม่คับหรือไม่หลวมเกินไป, พื้นรองเท้าต้องไม่อ่อนหรือแข็งจนเกินไป และที่สำคัญเลยต้องมีส่วนซัปพอร์ตอุ้งเท้า เป็นต้น

 

และทั้งหมดก็คือการบทความว่าด้วยเรื่องของความแตกต่างระหว่างรองเท้าทั่วไปและรองเท้าเพื่อสุขภาพที่เรานำเสนอกันไปวันนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกรายละเอียดที่หยิบมาบอกต่อกันคงจะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยนะ

 

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น