(มีคลิป) กลุ่มผู้เสียหายกว่า 30 คน หอบหลักฐานแจ้ง ตร.สูญเงินกว่า 6 ล้าน ถูกน้องสาวออแกไนซ์ดังหลอกร่วมลงทุนเปิดตลาดนัด

กลุ่มผู้เสียหายกว่า 30 คน หอบหลักฐานแจ้ง ตร.สูญเงินกว่า 6 ล้าน ถูกน้องสาวออแกไนซ์ดังหลอกร่วมลงทุนเปิดตลาดนัด แฉพฤติกรรมสวมรอยงานคนอื่น อ้างเป็นงานตัวเองหลายสิบงาน จนสุดท้ายโป๊ะแตก แค่มาเช่าสถานที่ขายของ

เมื่อช่วงสายวันนี้ (26 ม.ค. 65) รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มผู้เสียหายกว่าสิบคนที่มีทั้งพ่อค้าแม่ค้าและนักศึกษา นำหลักฐานที่มีทั้งบันทึกการสนทนาในโปรแกรมแชทออนไลน์ สลิปโอนเงิน ภาพถ่าย และ บันทึกแจ้งความ เข้าร้องเรียนกับ พ.ต.อ.ดำเนิน กันอ่อง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ขอให้เร่งรัดการสอบสวนคดี หลังถูกสาวคนหนึ่งชักชวนร่วมลงทุนเปิดตลาดนัดและบูธจำหน่ายสินค้า แต่สุดท้ายกลับถูกหลอก เสียเงินฟรีไปคนละหลายแสนรวมกว่า 6 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายได้รวมตัวเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา

ทางด้าน นางสาวอ้อม (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่า หญิงสาวที่ถูกแจ้งความเป็นน้องสาวเจ้าของบริษัทออแกไนซ์ชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่ผู้เสียหายส่วนใหญ่ก็เป็นเพื่อนๆ ที่รู้จักกับสาวคนนี้มานานนับสิบปี โดยในปี 2563 เพื่อนสาวคนนี้เริ่มชักชวนให้ร่วมลงทุนจัดตลาดนัดตามห้างสรรพสินค้าและสถานที่ต่างๆ โดยจะบอกว่าจะได้กำไรจากการขายพื้นที่เปิดบูธขายของให้กับพ่อค้าแม่ค้า ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจเพราะเห็นว่ามีพี่ชายเปิดบริษัทออแกไนซ์ชื่อดังและยังเป็นคนคุ้นเคย จึงโอนเงินไปร่วมลงทุนหลายครั้ง ครั้งละหลายหมื่นบาท ช่วงแรกๆ ได้ผลตอบแทนดี ลงทุนหนึ่งแสน ได้กำไรเกือบห้าหมื่น จึงเริ่มเชื่อใจโอนเงินไปให้อีกรวมกว่า 50 ครั้ง เป็นเงินเกือบ 6 แสนบาท แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทั้งกำไรและเงินทุนที่ลงไป ขอเงินคืนก็บ่ายเบี่ยงอ้างสารพัด จึงเริ่มเอะใจจนในที่สุดก็รู้ตัวว่าถูกหลอก

ขณะที่ทางด้าน นายเอก (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ทุกคนจะได้รับการติดต่อทักแชทส่วนตัว อ้างว่าจะร่วมลงทุนเป็นหุ้นส่วนกันแค่สองคน แต่ละคนจะถูกชักชวนจะร่วมลงทุนและเสนอผลกำไรไม่เหมือนกัน ที่ผ่านมาเคยสอบถามถึงรายละเอียดงาน สาวคู่กรณีก็จะมีเอกสารเป็นแผนผังการจัดสถานที่มาให้ดูตลอด แต่สุดท้ายก็มารู้ว่างานที่จัดจริงมีเพียงครั้งเดียวและเป็นงานของหลานสาว ส่วนงานอื่นที่เหลือและที่เคยพาไปดู เป็นการจัดงานของคนอื่นที่เอามาแอบอ้างทั้งหมด

หลังจากที่รู้ว่าถูกหลอกและมีผู้เสียหายรวมกว่า 30 คน เป็นเงินรวมเกือบ 6 ล้านบาท กลุ่มผู้เสียหายได้ขอเงินลงทุนคืน มีบางคนได้คืนบางส่วน แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ อ้างสารพัด ทั้ง รอเงินประกันจากห้าง โดนอายัดบัญชีธนาคาร บางครั้งทำสลิปปลอมมาอ้างว่าโอนแล้ว แถมยังมีการเอาเช็คปลอมมาให้ แต่ที่ทุกคนเสียใจที่สุดก็คือคู่กรณีไม่มีท่าทีสำนึกผิดหรือแสดงความรับผิดชอบ กลับไม่สะทกสะท้าน และยังท้าท้าย เคยบอกด้วยว่าหากแจ้งความดำเนินคดี ให้ผู้เสียหายไปรับที่บ้านพาไปมอบตัวที่โรงพัก

ความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ผู้เสียหายกลัวว่าเรื่องวจะเงียบเพราะครอบครัวของคู่กรณีทำธุรกิจจัดอีเวนท์และรู้จักผู้คนมาก เกรงจะมีอิทธิพลต่อการดำเนินคดี จึงอยากให้ตำรวจช่วยเหลือดำเนินการให้ถึงที่สุด คืนความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย เพราะทุกคนเป็นพ่อค้าแม่ค้า นักศึกษา พนักงานบริษัท กว่าจะหาเงินมาได้ก็เหนื่อยยาก มาลงทุนก็เพราะต้องการทำธุรกิจหารายได้เพิ่ม พร้อมขอเตือนเป็นอุทาหรณ์ให้คนอื่นอย่าไปหลงเชื่อคนคนนี้อีก

นอกจากกลุ่มผู้เสียหาย วันเดียวกันนี้ยังมีตัวแทนของบริษัทผู้จัดงานตลาดนัดแห่งหนึ่ง เข้าร้องทุกข์พร้อมกับกลุ่มผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่าถูกหญิงสาวคนดังกล่าวแอบอ้างการจัดตลาดนัดขอบริษัทไปหลอกคนอื่นให้มาร่วมลงทุน โดยบอกว่าหญิงคนนี้เคยมาเช่าพื้นที่ขายหมูสะเต๊ะของในตลาดนัดงานวัดห้างพรอมเมนาด้า อ.เมืองเชียงใหม่ ไม่ได้เป็นคนจัดงาน แต่กลับไปสวมรอยว่าเป็นงานของตัวเองทำให้มีคนโดนหลอกหลายราย จึงนำหลักฐานเข้าร้องทุกข์ลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยไม่ต้องการให้คนอื่นถูกหลอกอีก

อย่างไรก็ตามทาง พ.ต.อ.ดำเนิน กันอ่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยหลังรับเรื่องร้องเรียนว่าจะขอตรวจสอบเอกสารหลักฐานและพิจารณาข้อกฏหมายว่าจะเข้าข่ายเป็นกรณีฉ้อโกงหรือฉ้อโกงประชาชน พร้อมให้ความมั่นใจว่าตำรวจจะดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐาน ส่วนผู้เสียหายที่มีจำนวนมาก จะมีการตั้งคณะทำงานในระดับภูธรจังหวัดขึ้นมาทำคดีนี้โดยเฉพาะ

ร่วมแสดงความคิดเห็น