หนุ่มเชียงแสน ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ถูกรถชนสาหัส แต่คู่กรณีซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ยอมเหลียวแลชดใช้ค่าเสียหาย

วันที่ 29 ม.ค. 65 นายพรหมชาด (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้ยื่นหนังสือร้องความเป็นธรรมกรณีคดีไม่มีความคืบหน้า โดยเผยว่า ตนเองได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบที่ต้องรักษาตัวเป็นเวลานาน ไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งคู่กรณีขับรถยนต์ชนท้ายรถเก๋งตนเองจนเป็นเหตุให้ตนเองเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่ได้เข้ามาดูแลเยียวยา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 64 เวลาประมาณ 20.00น. นายพรหมชาด (ผู้ได้รับบาดเจ็บ) ได้ขับรถเก๋งฮอนด้า สีเทา ทะเบียนเชียงราย มุ่งหน้าเข้าอำเภอเชียงแสน เมื่อขับถึงบริเวณหน้าร้านขายของชำก่อนถึงหน้าวัดพระธาตุผาเงา ได้จอดรถชิดริมไหล่ทางเพื่อซื้อบุหรี่ที่ร้านขายของชำ เมื่อซื้อเสร็จได้เห็นรถยนต์ ขับมาด้วยความเร็วเหวี่ยงไปมาเหมือนเสียหลัก นายพรหมชาดจึงวิ่งไปหลบอยู่หน้ารถยนต์ของตัวเองที่จอดไว้ แต่รถคันดังกล่าวเสียหลักชนเข้าที่ท้ายรถยนต์เก๋งของตัวเอง แล้วลากเอาร่างนายพรหมชาด (ผู้ได้รับบาดเจ็บ) ติดไปกับหน้ารถ ลากร่างไปประมาณ 10 เมตร ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ต่อมา ร.ต.อ.ศิริพงษ์ ทองใบ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เชียงแสน ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีขาว โดยมีนายจิรายุ (สงวนนามสกุล) เป็นคนขับรถคันดังกล่าว และเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.เชียงแสน ได้นำตัวนายจิรายุ ไปวัดปริมาณแอลกฮอล์ได้ 124 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเกินตามกฎหมายที่กำหนด ตร.สภ.เชียงแสน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ขับรถขณะเมาสุรา ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสและทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย

ระหว่างนายพรหมชาด (ผู้ได้รับบาดเจ็บ) นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ผู้ก่อเหตุได้มาเจรจา ตกลงออกค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียเวลาให้ ผู้ก่อเหตุเข้ามาเยี่ยมจำนวน 2 ครั้งที่โรงพยาบาล จากนั้นก็หายไป และเริ่มบ่ายเบี่ยงจะจ่ายค่ารักษาเยียวยา ทำให้นายพรหมชาด (ผู้ได้รับบาดเจ็บ) เห็นว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และคดีไม่มีความคืบหน้า จึงได้ทำหนังสือร้องไปยังศูนย์ดำรงธรรมเชียงแสน-เชียงราย สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักคดีศาลแขวงเชียงราย สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับตนเอง

ร่วมแสดงความคิดเห็น