(มีคลิป) จ.เชียงราย พบผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งทะลุพันรายเป็นวันที่ 2 ส่งผลให้อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อของผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าขาดแคลนหนัก

จ.เชียงราย พบผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งทะลุพันรายเป็นวันที่ 2 ส่งผลให้อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อของผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าขาดแคลนหนัก วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พบผู้ติดเชื้อรวม 1,150 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อตรวจยืนยัน RT-PCR จำนวน 79 ราย และผู้ป่วยติดเชื้อเข้าข่าย ตรวจ ATK จำนวน 1,071 ราย ซึ่งถือเป็นยอดผู้ติดเชื้อที่ทะลุ 1 พันคนเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ส่งผลให้อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อของเจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกหน่วยในจังหวัดเชียงราย ซึ่งปฏิบัติงานเป็นด่านหน้าในการเข้าถึงตัวผู้ป่วยเป็นกลุ่มแรกๆ ต้องขาดแคลนอย่างหนัก เพราะต้องใส่ออกปฏิบัติงานทุกครั้ง และไม่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีก เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 จนหลายๆหน่วยกู้ภัยต้องลงประกาศขอรับการสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ดังกล่าว

 

เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์) เชียงราย เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ปัจจุบันสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดเชียงรายมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ทีม SCOT ของหน่วยกู้ภัยต่างๆต้องทำงานกันอย่างหนัก เพราะต้องเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาถ้าได้รับการร้องขอความช่วยเหลือหรือมีคำสั่งจากศูนย์สั่งการ ซึ่งการออกปฏิบัติงานแต่ละครั้งทีม SCOT ต้องแต่งกายให้มิดชิดรัดกุมเพื่อป้องกันการติดเชื้อ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการป้องกันการติดเชื้อได้แก่ ชุด PPE / หน้ากาก N95 / ถุงคลุมเท้า / หมวก / ถุงมือยาง / ชุดเอี๊ยมหรือชุด CPE และในการออกปฏิบัติงานแค่ละครั้งต้องมีเจ้าหน้าที่อย่างน้อยจำนวน 2 คน เพราะบางครั้งผู้ติดเชื้อเป็นผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือซัพพอร์ตกัน และหลังจากรับส่งผู้ป่วยเสร็จ จะต้องทำการฆ่าเชื้อภายในรถทันที และต้องทิ้งชุดและอุปกรณ์ป้องกันเชื้อที่ใช้ทั้งหมดหลังจากผ่านการใช้งาน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ เป็นอุปกรณ์ป้องกันที่ใช้แล้วหมดไป

 

ด้านนายภูวศิษฏ์ ประยูรส่วน เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสยามเชียงราย เผยว่าสถานการณ์ที่แพร่ระบาดอย่างหนักในตอนนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกคนที่ปฏิบัติงาน ถึงจะไม่ใช่ทีม SCOT ก็จำเป็นต้องใส่ชุดป้องกันออกปฏิบัติงานทุกครั้ง เพราะบางครั้งผู้ประสบเหตุอาจจะไม่รู้ตัวว่าตนเองติดเชื้อหรืออาจจะรู้แต่ตั้งใจปกปิดข้อมูล ซึ่งจะส่งผลให้ทีมกู้ภัยที่ไม่ได้ใส่ชุดป้องกันต้องติดเชื้อไปด้วย ทำให้ผู้ที่ตั้งใจมาทำงานช่วยเหลือผู้อื่นด้วยจิตอาสาต้องลดน้อยลงไปด้วย

จะเห็นได้ว่าการออกปฏิบัติงานแต่ละครั้งต้องใช้อุปกรณ์หลายชิ้น คิดเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ที่ผ่านมาแต่ละหน่วยจะได้รับการช่วยเหลือบริจาคเข้ามาบ้าง ใช้เงินส่วนตัวซื้อมาใช้งานบ้าง เพราะทุกคนที่มาทำงานตรงจุดนี้มาทำด้วยใจอาสา ไม่ได้หวังผลกำไร หลายครั้งต้องออกค่าใช้จ่ายกันเอง ทั้งค่าน้ำมัน ค่าซ่อมแซมรถและอุปกรณ์การแพทย์ ถ้าหากไม่มีจิตอาสาก็คงอยู่ได้ไม่นาน หลายหน่วยเป็นหน่วยกู้ภัยเล็กๆ ไม่เป็นที่รู้จักหรือไม่มีสื่อในมือ ก็เลยไม่เป็นที่สนใจ ทั้งที่ตั้งใจทำงานเหมือนๆกับหน่วยกู้ภัยใหญ่ๆ ทำให้หลายคนอาจน้อยใจในความเหลื่อมล้ำ ขาดกำลังใจในการทำงานไปบ้างในบางครั้ง แต่หลายหน่วยที่ทำอยู่เพราะไม่อยากทอดทิ้งอุดมการณ์ช่วยเหลือผู้เดือดร้อน หากได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากบุคคลทั่วไปก็ถือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กู้ภัยเป็นอย่างดี

“ในปัจจุบัน อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อโควิดดังกล่าวเป็นของสิ้นเปลือง มีความจำเป็นต้องใช้งานเป็นจำนวนมากและต้องใช้อย่างต่อเนื่อง จึงต้องขอความอนุเคราะห์จากผู้ใจบุญเพื่อขอรับการสนับสนุนอุปกรณ์ดังกล่าว ผู้สนใจอยากร่วมบริจาคสามารถติดต่อช่วยเหลือได้ที่หน่วยกู้ภัยใกล้บ้านได้ทุกหน่วยงาน ทางหน่วยกู้ภัยอยากได้เป็นอุปกรณ์ที่พร้อมนำมาใช้งานได้ในทันที ไม่อยากได้เป็นเงินเพราะยุ่งยากในการเบิกจ่าย ผู้ที่ต้องการบริจาคอุปกรณ์จำนวนมากก็สามารถติดต่อหน่วยกู้ภัยใกล้บ้าน ซึ่งจะมีการประสานกันในเครือข่ายเพื่อแบ่งปันของที่ได้รับบริจาคเพื่อนำไปใช้ในงานสาธารณกุศลต่อไป” นายภูวศิษฏ์ กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น